วันนี้ผมขอเอาใจสายคนรักสุขภาพอีกครั้งด้วยการเชิญ “ผศ.ดร.พท.ป. วัชระ ดำจุติ” อาจารย์คณะการแพทย์บูรณาการ มทร.ธัญบุรี ผู้ดำเนินรายการ “มิติสุขภาพ” ทาง FM 89.5 MHz สถานีวิทยุกระจายเสียง มทร.ธัญบุรี ทุกวันจันทร์ เวลา 10.30 – 11.00 น. มานั่งจับเข่าพูดคุยกันถึงเนื้อหาดี ๆ ในรายการนี้แบบได้อรรถรสเลยครับ
“รายการมิติสุขภาพ เป็นรายการที่เชื่อมโยงองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบันหรือวิทยาศาสตร์การแพทย์เข้ากับการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้ผู้ฟังเข้าใจแนวทางการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันรักษาและฟื้นฟูโดยอาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เรื่องของสุขภาพมันไม่ใช่แค่เรื่องเวลาเราป่วยแล้วเราต้องรักษานะครับ ศาสตร์การแพทย์เองมีหลายแขนง และแต่ละศาสตร์ก็มีจุดเด่นจุดแข็งที่แตกต่างกัน เช่น การแพทย์แผนปัจจุบันก็จะเป็นเรื่องความแม่นยำ ความรวดเร็ว ส่วนแพทย์แผนไทยแผนทางเลือกก็จะมีก็จะมีจุดแข็งในเรื่องของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เมื่อการแพทย์เอา 2 แขนงมารวมกัน ก็จะได้แนวทางการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยพื้นฐานผมจบปริญญาตรีการแพทย์แผนไทยประยุกต์ จึงจะมีความเข้าใจในการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกันด้วย ผมเลยนำความรู้เหล่านี้มาประยุกต์ใช้ให้ความรู้ผ่านผู้เชี่ยวชาญหลากหลายมิติ เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นความรู้กับผู้ฟังครับ” อาจารย์วัชระ เล่าถึงเนื้อหาหลัก ๆ ในรายการด้วยน้ำเสียงที่รื่นหู
สำหรับอาจารย์วัชระในวัย 36 ปีทุกวันนี้ ยอมรับว่ามีการดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้น “ตอนเด็ก ๆผมเป็นเด็กที่ป่วยบ่อยมาก มีโรคประจำตัวคืออาการหอบหืด พอโตขึ้นก็อ้วนมาก ก่อนหน้านี้ผมหนัก 120 กิโลกรัมครับ ก็เลยเริ่มหันมาดูแลสุขภาพ ปรับรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ ทั้งการกินอาหาร ออกกำลังกาย และการนอนหลับ จนปัจจุบันสุขภาพกลับมาดีขึ้นมาก น้ำหนักก็ลดลงมาเหลือ 75 – 76 กิโลกรัม ต้องบอกเลยว่าที่ลดน้ำหนักลงมาได้ขนาดนี้อย่างแรกเลยคือเราต้องคุมอาหาร เรากินไปเท่าไหร่แล้วเราต้องใช้พลังงานเท่าไหร่”
เนื้อหาของรายการวิทยุถือเป็นหัวใจหลักที่จะดึงดูดให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกอยากติดตาม รายการ “มิติสุขภาพ” ก็เช่นกัน อาจารย์วัชระให้ความสำคัญกับเนื้อหามาเป็นอันดับแรก “ตัวรายการทำหน้าที่เหมือนเป็นสะพานเชื่อมโยงความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือก นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย มีหลักฐานมารองรับงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเพื่อมาพูดคุยกันในรายการ จุดที่น่าสนใจในรายการจะมี 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกจะเป็นการดูแลสุขภาพที่ทุกคนสามารถทำเองได้ ส่วนที่ 2 จะเป็นการอธิบายเรื่องสุขภาพที่อิงงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ควบคู่กับภูมิปัญญาการแพทย์ทางเลือก ส่วนเทปที่ประทับใจตัวเองเป็นพิเศษเป็นเทปที่อาจารย์ผู้ร่วมรายการนำน้อง ๆ นักศึกษาเข้ามาพุดคุยเรื่องโปรตีนทางเลือก โดยตัวนักศึกษาสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรตีนจากจิ้งหรีดนำผลงานมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ได้”
จากสภาพสังคมในปัจจุบัน การดูแลตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยไร้โรคไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป อาจารย์วัชระให้ความเห็นกับผมว่า “วิทยาการทางการแพทย์บ้านเราค่อนข้างล้ำยุคนะครับ เรามีการแพทย์ที่ช่วยในการรักษาได้ดีมาก แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยไม่ค่อยปฎิบัติคือการดูแลรักษาตัวเอง เราควรส่งมอบความรู้ให้ผู้ฟังตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลตัวเองและการสร้างสมดุลให้กับร่างกาย อันดับแรกต้องมีความรู้ที่ถูกต้องแม่นยำว่าสิ่งนี้ดีหรือไม่ สิ่งที่คนอื่นบอกว่าดีอาจจะไม่เหมาะกับตัวเราก็ได้ เมื่อเราประเมินสุขภาพตัวเองได้เราก็จะสามารถประเมินการมีสุขภาวะที่ดีได้ในอนาคตและปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้ครับ”
แม้ทุกวันนี้จะมีข้อมูลการดูแลตัวเองให้เราเห็นในสื่อมากมายแต่ในแง่ของผลกระทบเชิงสังคมอาจจะทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการดูแลสุขภาพไปตามสมัยด้วยเช่นกัน “เมื่อมีโรคระบาดใหม่ ๆ เกิดขึ้นเราก็ต้องมีความรู้ศึกษาหาข้อมูลมากขึ้น เพื่อที่จะได้มีความรู้ในการดูแลตัวเองตามพัฒนาการของโรคที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย ตัวรายการเองมีการปรับปรุงเนื้อหาให้เข้าถึงได้กับคนทุกกลุ่ม มีการใช้ภาษาไม่ซับซ้อน เข้าใจได้ง่าย ฟังแล้วคุณจะรู้จักการป้องกัน ฟื้นฟู และสร้างสมดุลให้กับตัวเองได้แน่นอนครับ” นั่นคือเหตุผลที่เห็นได้ชัดว่าคุณไม่ควรพลาดที่จะฟังรายการมิติสุขภาพเลยจริงๆ!
เรื่อง – ภาพ ชวลิต อรุณทัต