อธิการฯโล่งปลดล็อกนายก-กก.สภามหาลัยไม่ต้องยื่นทรัพย์สิน 

มติชน ฉบับวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2562

อธิการบดี มทร.ธัญบุรีขอบคุณ รบ.-ป.ป.ช. ชี้ปลดล็อกมหา’ลัยทั่ว ปท.ให้เดินหน้าต่อได้ ด้านกก.สภาราชภัฏราชนครินทร์แห่ออกก่อนประกาศ
จากกรณีที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 (ฉบับที่) พ.ศ.2561 แก้ไขโดยที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 21/2551 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) และให้ยกเลิกการแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ ของนายกสภา และกรรมการสภาในสถาบันอุดมศึกษา และรวมถึงตำแหน่งประธาน กรรมการและเลขาธิการ อาทิ กองทุนการออมแห่งชาติ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันชีวิตกองทุนประกันวินาศภัย กองทุนสงเคราะห์ เป็นต้น โดยในส่วนของอธิการบดีและรองอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษา ยังคงต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ตามเดิมนั้น
เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายมนตรี นุ่มนาม อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภามหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (มรร.) เปิดเผยว่า ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิก่อนมีประกาศ ป.ป.ช.ให้ยกเลิกการแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ ของนายกสภาและกรรมการสภาออกมาเพียง 1 วัน เพราะไม่อยากนั่งรอเวลา เนื่องจากใกล้ครบกำหนดวันที่ ป.ป.ช.ให้นายกสภาและกรรมการสภายื่นบัญชีทรัพย์สินฯ แล้ว เพราะไม่อยากมาเสี่ยงว่า ป.ป.ช.จะออกประกาศเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ หรือไม่ อีกทั้งได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่าหากต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ จริง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 12 ราย พร้อมลาออก เพราะพวกเราเป็นนักธุรกิจ ไม่อยากเสี่ยงในการผิดพลาดในการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ
“ส่วนตัวไม่อยากลาออก เพราะอยากอยู่ช่วยงานมหาวิทยาลัย เพื่อให้ขับเคลื่อนงานต่างๆ ได้ แต่ถ้ามีปัญหาที่ยุ่งยากตามมาในภายหลัง ก็ไม่อยากเสี่ยง จึงขอลาออกก่อน ขณะนี้มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกลาออกเกือบหมด เหลือเพียง 4-5 รายที่ยังไม่ลาออก เมื่อ ป.ป.ช.ประกาศออกมาชัดเจนแล้ว จึงขอให้คนที่ยังไม่ลาออกอยู่ช่วยงานมหาวิทยาลัยต่อไป เพราะกังวลว่าหากมีสัดส่วนกรรมการสภาไม่ครบองค์ประชุม ไม่ครบองค์ประกอบ การดำเนินการของมหาวิทยาลัยอาจจะหยุดชะงัก” นายมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกระทบต่อการสรรหานายกสภาหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายกสภา มรร.ประกาศลาออกไป นายมนตรีกล่าวว่า จะกระทบหรือไม่ ไม่ทราบ ต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่ากรรมการสภา มรร.ขณะนี้มีองค์ประชุมครบครึ่งหนึ่งหรือไม่ หากมีกรรมการครบ หรือเกินกึ่งหนึ่ง ยังมีโอกาสที่กระบวนการสรรหานายกสภาเดินหน้าต่อไปได้ แต่หากกรรมการสภามีจำนวนไม่ครบองค์ประชุม กระบวนการสรรหาก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้
ด้านนายประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวว่า ต้องขอบคุณรัฐบาล ป.ป.ช.และ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่เข้าใจบริบทอำนาจหน้าที่ของนายกสภาและกรรมการสภา ว่าไม่มีอำนาจในการกำกับ หรือบริหารสั่งการอนุมัติงบประมาณ หรืออนุมัติจัดซื้อจัดจ้างในมหาวิทยาลัย มีหน้าที่เพียงเป็นผู้ดูแลกำกับ แนะนำนโยบาย และดูแลงานของมหาวิทยาลัยในเชิงวิชาการ เช่น อนุมัติปริญญาและหลักสูตร เลือกอธิการบดี เป็นต้น อีกทั้ง ส่วนใหญ่กรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิเป็นบุคคลภายนอกที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ในอาชีพ และเชื่อว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้มีความสามารถ มีประสบการณ์ เข้ามาช่วยเหลือ และแนะนำการบริหารงานมหาวิทยาลัยได้
“เมื่อประกาศ ป.ป.ช.ยกเลิกการแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ ของนายกสภาและกรรมการสภาออกมา ผมเชื่อว่าเป็นการปลดล็อกสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศให้ทำงานต่อไปได้ราบรื่น ส่วนนายกสภาและกรรมการสภา มทร.ธัญบุรี ไม่มีใครลาออกก่อนประกาศ ป.ป.ช.ออกมา เพราะทุกคนรอ ป.ป.ช.แก้ไขปัญหาอยู่ และเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ดังนั้น สภา มทร.ธัญบุรี สามารถทำงานต่อได้ทันที เช่น เตรียมทำหน้าที่รับนักศึกษาใหม่ในปีการศึกษา 2562 และร่วมกันหารือคิดหลักสูตรพัฒนากำลังคน ตอบสนองนโยบายรัฐบาล เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากมหาวิทยาลัยใดมีกรรมการสภาลาออก ไม่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งโดยอัตโนมัติได้ หากอยากกลับเข้ามาต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหากรรมการสภาใหม่ กรรมการสภาคนเดิมที่ลาออกไปสามารถกลับเข้ามาได้ แต่ต้องใช้เวลาในการสรรหาไม่น้อยกว่า 3 เดือน” นายประเสริฐกล่าว