ขับจยย.เพลินหลับในชนพุ่ง คนไทยขาดทักษะความเร็ว

เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีขบ. แถลงข่าวเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยการขับขี่รถจักรยานยนต์(จยย.หรือมอเตอร์ไซค์) และปฏิบัติตามกฎจราจรว่า สถิติมอเตอร์ไซค์มีอุบัติเหตุสูงสุด และเกิดกับกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปี เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางถนนให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืนได้จัดทำสกู๊ปรณรงค์ลดอุบัติเหตุ 22 ตอน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ และนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย จัดทำมิวสิกวิดีโอ เพลงรณรงค์ลดอุบัติเหตุ โดยนักร้องชื่อดัง “โต๋” ศักดิ์สิทธิ์ และจัดกิจกรรมประกวดคลิปส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนระดับอุดมศึกษา ชิงเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมกิจรรมเชิงรุกในมหาวิทยาลัย 4 แห่งคือ ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ม.ราชภัฏจันทรเกษม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และม.สยาม
นายสนิท กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กรมฯ จะเร่งรัดการปรับเปลี่ยนระบบการทำใบขับขี่เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศภายในปี 62 นอกจาก นี้จะเข้าสถานศึกษา อำนวยความสะดวกเรื่องการทำใบขับขี่ ภายใต้การอบรมอย่างเข้มข้น มุ่งสร้างทัศนคติระบบสอบใบขับขี่ในประเทศไทย ต้องเทียบได้กับการเรียนจบระดับปริญญาตรี มีระดับความยาก เมื่อได้รับแล้วต้องฉลอง รวมไปถึงแก้ไขกฎระเบียบของใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ขนาดใหญ่อย่างบิ๊กไบค์ ต้องแยกประเภทกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ต้องผ่านการอบรมรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ
ด้าน พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เปิดเผยว่า สถิติเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์บนทางหลวง ประกอบด้วย 3 สาเหตุ คือ 1.ชนท้าย ทั้งชนท้ายรถยนต์และรถยนต์ชนท้ายจยย. เนื่องจากระดับความเร็วของรถยนต์และจยย.ไม่สัมพันธ์กัน ประกอบกับคนไทยไม่มีทักษะการขับรถเว้นระยะห่างเพราะไม่ถูกสอน ขณะที่มอเตอร์ไซค์ใช้ความเร็วแบบไม่ระมัดระวัง 2.ถูกเบียด เพราะไปอยู่ในจุดอับ พบกรณีรถบรรทุกไม่เห็นมอเตอร์ไซค์ในจุดทางโค้ง ขณะที่มอเตอร์ ไซค์คิดว่าขับอยู่ในเลน ไม่สนใจรถร่วมทาง และ 3. คนขับมอเตอร์ไซด์ขี่เพลินจนหลับในชนราวสะพาน ชนท้ายรถสิบล้อที่จอดอยู่ สาเหตุนี้มีถึงครึ่งหนึ่งของอุบัติเหตุ ดังนั้นการทำใบขับขี่ของรถมอเตอร์ไซค์ ควรเป็นแบบจำลองการขับรถเสมือนจริงเหมือนการสอบใบขับขี่รถยนต์
ด้านนายอารักษ์ พรประภา ผู้อำนวยการศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตรถได้ออกแบบรถให้มีความปลอดภัย มีระบบเบรกเอบีเอส และมอบหมวกกันน็อกที่มีมอก.ให้กับลูกค้าถึง 2 ใบเมื่อซื้อมอเตอร์ไซค์ แต่พบว่าผู้ขับขี่ไปดัดแปลงเครื่องยนต์ให้มีความแรงขึ้น ปรับเปลี่ยนล้อให้มีขนาดเล็ก ซึ่งเป็นอันตรายมากรัฐควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับอู่ที่รับดัดแปลง ในฐานะภาคธุรกิจไม่อยากถูกสังคมมองว่ามอเตอร์ไซค์เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ ทั้งนี้ฮอนด้าจะตั้งศูนย์ขับขี่ความปลอดภัยทั่วทุกภาคเพื่ออบรมนักเรียนนักศึกษาให้มีความรู้ ในปีที่ผ่านมาได้สนับสนุนเงินทุนวิจัยอุบัติเหตุ 40 ล้านบาท ให้สถาบันเอไอที ทำวิจัย 3 ปี.