นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 18 ต.ค. 2564
“บิว ณัฏฐา ทองแก้ว” ปัจจุบันอายุ 27 ส่วนสูง 168 เซนติเมตร จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ วิชาเอก ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เป็นอดีต Top 20 Miss Universe Thailand 2020 ผู้ฝ่าฟันการถูกดูถูกและบูลลี่มากมายมาถึงสองเวที
เพราะเธอเชื่อมั่นในความเท่าเทียมกัน อีกทั้งสภาพสังคม ทำให้เธอเห็นว่า สิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค เท่าเทียมกันของคนไทย ไม่มีอยู่จริง จึงได้กล่าวเรื่องนี้ออกมา บนเวทีนางงาม ส่งผลให้ถูกทาบทามมาเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปประกวด Miss Face of Humanity เวทีระดับโลก ที่ประเทศแคนาดา ในเดือนพ.ย.2564 นี้
แค่นี้เรื่องราวของเธอก็น่าติดตามแล้ว…เข้ามาประกวดนางงามได้อย่างไร
เข้ามาประกวดปีแรก 2019 ด้วยความไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่งตัวยังไง เป็นเวทีที่ฝึกผู้หญิงคล้ายๆ โรงเรียน กินนอน เราต้องอึดพอสมควร ทำให้เจอภาวะกดดันทางสังคม มีการบูลลี่ การดูถูก มีคอมเมนท์ Hate Speech ที่แรงมากๆ
ทั้งเรื่องความสูง 168 ที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าตัวเล็กเลย พอมาอยู่ในแวดวงนางงาม คนก็ว่าตัวเล็กไปนะ ไม่เหมาะกับ นางงามนะ ไปยืนกับฝรั่งยังไงก็จมแน่นอน ไม่คู่ควรกับการมายืนอยู่ตรงนี้
ตอนอ่านคอมเมนท์ครั้งแรก บิวเป๋ไปเลย โดนดูถูก ทั้งรูปร่างหน้าตา,ความสวย,ความสูง ทุกอย่าง ระหว่างเก็บตัว ร้องไห้เลย แล้วก็ตั้งสติ ปักธงว่า เราก็ทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง
ปี 2019 ผ่านไป บิวไม่ได้เข้ารอบบนเวที แต่ได้ประสบการณ์ ปี 2020 บิวมาประกวดอีกครั้ง เรามีประสบการณ์แล้ว จากพายุคอมเมนท์ปีที่แล้ว มาปีนี้ มันทำอะไรเราไม่ได้เลย จากที่เคยเจ็บปวดมากๆ กลายเป็นมั่นใจมากขึ้น เหมือนมีโล่กำบัง ไม่หวั่นไหวกับคอมเมนท์ เพราะเรารู้ว่าเรามาทำอะไร เพื่อใคร
ปี 2020 บิวเปลี่ยนตัวเองไปเยอะ ทั้งการดูแลตัวเอง การเดิน ที่นางงามควรจะมี รวมถึงหาคอนเทนท์ใหม่ๆ ให้สังคมได้รับรู้ บิวทำการบ้านว่าอะไรที่จะหยิบยกขึ้นมา แล้วมันจะเป็นประโยชน์มากกว่าแค่ดูนางงามคนหนึ่ง
มีคนทำ CSR ช่วยเด็ก ช่วยคนพิการ ช่วยคนแก่ เยอะแล้ว บิวเลยมานั่งดูว่ารอบๆ ตัวเรามีอะไรที่คนในสังคมยังไม่มีโอกาสอีก คุณพ่อบิวทำงานเรือนจำมา 30 ปี จากเจ้าหน้าที่จนมาเป็นผู้อำนวยการ
พ่อชอบมาเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง เช่น วันหนึ่งมีอดีตนักโทษที่ออกจากคุกไปแล้ว กลับมาที่หน้าเรือนจำ แล้ว ยื่นยาเสพติดให้บอกว่า ช่วยเอาผมกลับเข้าไปในคุกที ผมไม่อยากอยู่ข้างนอกแล้ว เพราะข้างนอกไม่มีโอกาสให้ผม
แสดงว่า โลกภายนอก ทำให้พวกเขาไม่สามารถ ใช้ชีวิตอยู่ได้ ?
จากสถิตินักโทษที่ออกมาแล้วกระทำความผิดซ้ำมีถึง 200,000 คน จากเรือนจำ77 จังหวัด และในเรือนจำสามารถรองรับได้เพียงสองแสนคน แต่ตอนนี้มีนักโทษถึงสี่แสนคน แน่นขนาดนั้น ทำไมเขายังอยากกลับเข้าไปอีก
ตอนเด็กๆ บิวเคยคิดว่า ถ้าโตขึ้น อยากจะไปพูดคุย กับนักโทษถามว่า อะไรคือจุดที่ทำให้เขาตัดสินใจทำผิดพลาดในครั้งนั้น พอบิวโตขึ้นอายุ 26 ได้เป็นนางงาม ก็ได้เข้าไปพูดกับนักโทษชายจำนวน 1,000 คน อะไร ทำให้เขาคิดและตัดสินใจกระทำผิดพลาดในวันนั้น เขาบอกว่าความหลงผิด คิดผิด แล้วสิ่งที่กระตุ้นให้คนกระทำความผิดก็คือ ระบบคุณภาพชีวิตที่ไม่ได้เอื้อให้เขาทำมาหากินได้ง่าย
อะไรทำให้ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด Miss Face of Humanity
ตอนที่ประกวด Miss Universe Thailand 2020 บิวได้พูด Speech ใน 20 คนสุดท้าย เป็นเรื่องเกี่ยวกับสังคมและความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเวที Miss Face of Humanity ก็เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน เหมือนกัน เขาคงเห็นว่าบิวน่าจะเหมาะกับการเป็นตัวแทน ในครั้งนี้ เพราะบิวประกวดมาสองปีแล้ว น่าจะดูแลตัวเองได้ ตอนเขาโทรมา ก็ตื่นเต้นดีใจ แต่ก็ไม่มีตัวอย่างให้ดูเลย เพราะประเทศไทยยังไม่เคยไปแข่งขันเวทีนี้
และด้วยความเป็นเวทีใหม่ ไม่มี สปอนเซอร์หลัก บิวเลยต้องทำงานหนัก ให้คนรู้จัก เพื่อตัวเอง เพื่อประเทศชาติ เราอยากทำให้มันเป็นมาตรฐานที่ดีให้กับ รุ่นน้องปีต่อไป เขาจะได้ดูเรา
เวทีที่เราจะไปประกวดมันเกี่ยวข้องกับ Humanity เราต้องทำโครงการไปพรีเซนต์ในเวทีโลก ถ้าบิวเดินเรื่องคนเดียวมันอาจจะดูไม่เป็นทีมแล้วยังขาดผู้คนที่มาช่วยกันสนับสนุน ก็เลยเดินหน้าติดต่อ AMNESTY ด้วยตัวเอง
แล้วเอาเรื่องอะไรไปเสนอ แอมเนสตี้ ?
บิวโทรไปติดต่อเขา บอกว่า บิวกำลังทำ โปรเจคนี้อยู่ และจะถูกขยายในเวทีโลก แล้วคนที่ชนะจากเวทีนี้ก็จะได้ไปทำงานกับองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลก แอมเนสตี้ เขาทำเกี่ยวกับ Human Right อยู่แล้ว ถ้ามีอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นนางงามสักคน มาร่วมมือกัน มันน่าจะดี เขาถามว่า เราสนใจเรื่องไหน เราบอกเรื่องเรือนจำ
พอดีว่าแอมเนสตี้กำลังบริจาค ช่วยเหลือนักโทษในสถานการณ์โควิด อยู่พอดี บวกกับบิวเป็นคนใต้ พ่อเป็น คนพัทลุง ในจังหวัดมีกลุ่มชาติพันธุ์มานิอาศัยอยู่ พอมีสถานการณ์โควิดเข้ามา ชาวมานิแม้อยู่ในป่า ในภูเขาไกลๆ ก็มีโอกาสจะติดเชื้อโควิดได้
เพราะเขาต้องลงมาข้างล่างซื้อของที่จำเป็น ส่งลูกมาเรียน ผู้นำชนเผ่าก็ต้องมาประชุม บางทีก็ลงมาหาหมอ เราได้คุยกับคนที่ดูแลคนกลุ่มนี้พบว่า ชาวมานิไม่ได้รับการดูแลหรือสนับสนุนอะไรเลยจากภาครัฐ คนดูแล ต้องควักเงินเอง มีบ้างที่อบต.ดูแล แต่มันก็ไม่ทั่วถึง
ก็เลยทำแคมเปญช่วยเหลือคนทั้งสองกลุ่มเลย ?
ค่ะ แคมเปญชื่อว่า “ไม่มีใครปลอดภัย จนกว่าทุกคนจะปลอดภัย” รณรงค์เรียกร้อง ให้สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง, สตูล, ตรัง
และกระทรวงสาธารณสุข,กระทรวงมหาดไทย ไม่ให้ทอดทิ้งกลุ่มชาติพันธุ์ มานิในช่วงวิกฤติการระบาดของโรค โควิด-19 เพราะการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ, สัญชาติ, สถานะทางสังคม
ส่งผลให้การแพร่ระบาดรุนแรงยิ่งขึ้น
แล้วบิวก็สร้างแคมเปญรณรงค์ออนไลน์ใน Change.org/Save
ManiPeople ด้วย อยากให้ทุกคน
มาช่วยกันลงชื่อ เราจะระดมรายชื่อ เหล่านี้ ส่งเสียงไปยังภาครัฐให้ได้มากที่สุดให้เขารู้ว่า มีคนไทยในสังคมต้องการให้เขาได้ยินเสียงของชาวมานิจริงๆ
ในภาวะเร่งด่วน ยังมีคนกลุ่มนี้ถูกหลงลืม
อยู่ เราต้องการแก้นโยบาย ซึ่งเป็น
การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนที่สุด นี่เป็นสิ่งที่บิวจะเอาไปพรีเซนต์แน่นอนค่ะการประกวดบนเวที Miss Face of Humanity ต้องเตรียมตัวอย่างไร โอโห เยอะมากค่ะ เวทีนี้ไม่มีการประกวดชุดว่ายน้ำ จะมีรอบชุดประจำชาติ แต่หนักไปในเรื่องของ Speech, ดีเบต(Debate), การตอบคำถาม การ พรีเซนต์ สิ่งที่เราได้ทำเพื่อประเทศของเราและอะไรได้เกิดขึ้นบ้าง ในประเทศของเรา บิวต้องดูเยอะเลย ฟัง Podcast อ่านบทความวิชาการของนักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอก บิวต้องมานั่งอ่าน การพูดก็สำคัญ เป็นเรื่องท้าทายเหมือนกัน รวมถึง เสื้อผ้า หน้าผม ชุดเก็บตัว เราจะพร่องไม่ได้เพราะว่าเราทีมไทยแลนด์
คุณจะเอาอะไรไปสู้กับนางงามคนอื่น
สิ่งที่เราจะเอาไปสู้กับเขามีเรื่องแคมเปญ, มีเรื่องเรือนจำ บิวอยากทำให้คนเข้าใจว่า จริงๆ แล้วเราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด แต่เราจะทำยังไงให้การทำเรื่องชั่ว เป็นเรื่องที่ทำได้ยากขึ้น ถ้าเรามีระบบกลไกสังคมที่ดี ประเทศเราก็จะมีคนกล้าทำผิดน้อยลง แล้วประเทศเรา ก็จะรุดหน้า เจริญไม่แพ้ต่างชาติ