ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
นิสิตา/รายงาน
“มหาวิทยาลัยต้องเป็นที่พึ่งให้กับชุมชนลงไปช่วยชุมชน แก้ปัญหาเพราะชุมชนเปรียบเสมือนห้องเรียนและห้องปฏิบัติการขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับนักศึกษาได้เป็นอย่างดี”
นโยบายของ รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ที่นำไปสู่การปรับรูปแบบการเรียนการสอน เน้นให้นักศึกษานำวิชาความรู้ที่เรียนมาทั้งหมดลงพื้นที่จริง ถ่ายทอดและลงมือปฏิบัติร่วมกันเพื่อแก้โจทย์ปัญหาของชุมชน เป็นการพัฒนาชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
จึงเป็นที่มาของ โครงการส่งเสริมสุขภาพชุมชนและสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่นำนักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี กว่า 30 ชีวิต ลงพื้นที่ ต.บึงบา และ ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นชุมชนใกล้เคียงมหาวิทยาลัยเพื่อส่งเสริมสุขภาพให้กับชาวบ้าน พร้อมเติมเต็มความรู้ด้วยศาสตร์ของแพทย์แผนไทย รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยใช้ความรู้จากวิชาเภสัชกรรมเพื่อสุขภาพความงามภายใต้การดูแลของ น.ส.ยามีละ ดอแม อาจารย์สาขาวิชาสุขภาพความงามและสปา วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย
จากศาสตร์ความรู้สู่การปฏิบัติจริง!!!มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นบ้าง “นิสิตา” ว่าเรามาฟังจากตัวแทนน้องๆเองดีกว่าเริ่มที่ “เกศ”…เกศกัลยา ผอมถึง อาสาเปิดประเด็นว่า “พวกเราได้นำความรู้ที่เรียนมาถ่ายทอดการทำลูกประคบหน้าจากสมุนไพร เช่น พญายา ทานาคา ฟ้าทะลายโจร และแครอท โดยเริ่มตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบส่วนผสม การห่อและการนำไปใช้ ซึ่งได้รับความสนใจจากชุมชนเป็นอย่างดี สามารถทำใช้เองในครอบครัวและทำเป็นอาชีพเสริมต่อไปได้ ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้เราได้ทบทวนความรู้ ได้ฝึกทักษะ ได้ช่วยส่งเสริมสุขภาพคนในชุมชนโดยใช้สมุนไพรไทย ซึ่งเป็นทรัพยากรในท้องถิ่นและในครัวเรือนที่วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย ได้บูรณาการองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยกับวิทยาศาสตร์สุขภาพ และแสวงหาความรู้ใหม่อย่างต่อเนื่องด้วยการวิจัย เพื่อจะทำให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน”
“พิมพ์”…พินทุ์สุดา แก้วถาวร รีบประสานเสียงยืนยัน “กิจกรรมที่ทุกคนร่วมกันทำในครั้งนี้ เหมือนเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนจากห้องเรียน ห้องปฏิบัติการมาสู่ชุมชน ซึ่งมีคนมาให้เราได้ลงมือปฏิบัติจริง ทำให้ทุกคนตื่นตัว และต้องเตรียมพร้อมในวิชาความรู้ ทักษะการสื่อสารและการแบ่งงานกันทำพิมพ์เป็นผู้ช่วยวิทยากรในการสอนชุมชนทำลูกประคบตัวสมุนไพร
โดยก่อนลงพื้นที่จริงก็ได้ศึกษาความ ต้องการของชุมชน เพื่อร่วมกันคิดพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์และฝึกปฏิบัติ มีการจัดทำคู่มือและสื่อเพื่อการเรียนรู้ และจัดเตรียมวัสดุต่างๆ ซึ่งพวกเราลงมือทำจริงๆ โดยมีอาจารย์เป็นที่ปรึกษา หวังว่าจะทำให้ชาวบ้านที่ได้เข้าร่วมโครงการนำความรู้ที่พวกเราได้ถ่ายทอดไปใช้เพื่อการดูแลและส่งเสริมสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน ทั้งยังเป็นการสร้างทักษะความรู้ที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้”
“ติ๊ก”…ธันยพร ไชยเจริญ รับช่วงสานต่อว่า “ส่วนติ๊กได้ช่วยถ่ายทอดความรู้ทำแผ่นแปะเท้าสมุนไพร เพื่อคลายกล้ามเนื้อ โดยหยิบสมุนไพรที่ทุกบ้านมี เช่น กระเทียม พริกไทย มาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งแผ่นแปะเท้าสมุนไพรช่วยในเรื่องระบบการหมุนเวียนเลือดและคลายความปวดเมื่อย การนำความรู้ไปถ่ายทอดแก่ชุมชนเป็นโครงการที่ดีมากครับเพราะทำให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ศาสตร์แพทย์แผนไทยที่สามารถนำไปใช้ดูแลรักษาสุขภาพได้จริง สามารถสร้างมูลค่าสร้างอาชีพ และรายได้ขณะที่นักศึกษาเองก็ได้ลงมือปฏิบัติจริง ได้เรียนรู้ไปกับชาวบ้านสนุกกว่าเรียนในห้องเรียนที่สำคัญทำให้เราทำงานเป็นเรียกว่าเป็นการบูรณาการระหว่างชุมชนกับมหาวิทยาลัยที่เป็นประโยชน์มาก”
ปิดท้ายที่ชายหนุ่มอารมณ์ดี “ต่อ”… นันทวัฒน์ เวฬุวนารักษ์ ยิ้มอย่างภูมิใจก่อนเล่าว่า “สำหรับผมรับหน้าที่การถ่ายทอดสูตรการทำครีมจากสมุนไพรเพื่อคลายกล้ามเนื้อ และการประยุกต์ใช้กับการนวดเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นความต้องการของคนในชุมชนที่นำไปใช้ในการประกอบอาชีพและอยากนำสมุนไพรใกล้ตัวในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งมีเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งในชุมชนบึงบาและบึงกาสาม ที่ให้ความสนใจและเห็นคุณค่าของสมุนไพรไทยอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องให้คณาจารย์และนักศึกษา ช่วยสร้างสรรค์การใช้พืชสมุนไพรตัวอื่นต่อไป ทำให้ผมมีความมุ่งมั่นที่จะสานฝันตัวเองสู่การเป็นบุคลากรวิชาชีพด้านการดูแลสุขภาพ เพราะอยากเห็นคนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
การนำงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการแพทย์แผนไทยไปถ่ายทอดความรู้ให้ชุมชน ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมสุขภาพแล้วยังสร้างมูลค่าเพิ่มจากสมุนไพรในท้องถิ่น ที่จะนำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ แบบนี้ “นิสิตา” มองว่าตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ
เรียกว่าเป็นโครงการดีมีประโยชน์ ที่ “วินวิน” กันทั้งสองฝ่าย!!!