กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
กรุงเทพธุรกิจ หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี นำขยะหน้ากากอนามัย เหลือทิ้ง มาใช้ประโยชน์เป็นวัสดุเสริมแรงในการผลิตวัสดุก่อสร้าง วัสดุตกแต่ง และกระถางต้นไม้
นายประชุม คำพุฒ หัวหน้าหน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ปัจจุบันหน้ากากอนามัยมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิต เปรียบเหมือนเป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีติดตัวตลอดเวลา โดยหน้ากากอนามัย แบ่งออกเป็น
1.หน้ากากอนามัยผ้าฝ้ายใช้สำหรับป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันการกระจายของน้ำมูกหรือน้ำลาย จากการไอ หรือจามแต่ไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้
2.หน้ากากอนามัยใยสังเคราะห์ 3 ชั้น ทำจากพอลิโพรไพลีนใช้ในการกรองฝุ่น ป้องกันของเหลวซึมผ่านและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากการไอหรือจาม และเชื้อโรคจำพวกเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ การกรองได้ไม่น้อยกว่า 95% ของอนุภาคขนาด 3 ไมครอน และ
3.หน้ากากอนามัยชนิดN95 ได้รับการยอมรับว่า สามารถป้องกันเชื้อโรค ได้ดีที่สุด มีคุณสมบัติป้องกันได้ทั้งฝุ่นละออง และเชื้อโรคที่มีขนาดอนุภาคเล็ก ได้ถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งหน้ากากทุกประเภทเมื่อใช้แล้ว จะต้องทิ้งกลายเป็นขยะอันตรายที่ต้องทำการกำจัดด้วยวิธีที่ปลอดภัย โดยก่อนทิ้งควรมีการพับเก็บให้เรียบร้อยและทิ้งอย่างถูกวิธี
จากข้อมูลของหน่วยงานทางด้านสาธารณสุข ให้ความรู้แนวทางการกำจัดว่า “หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ แต่พอทิ้งไปแล้วสามารถที่จะย่อยสลายเองได้ เนื่องจากใช้วัสดุที่ทำจาก ใยสังเคราะห์ ถึงแม้จะมีการทิ้งมากขนาดไหน ก็จะไม่เกิดปัญหากับสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอนส่วนหน้ากากอนามัยที่เป็นผ้าสามารถนำไปซักแล้วนำกลับมาใช้ได้เลย
แต่ถ้าเป็นหน้ากากอนามัยหรือผ้าที่ ใช้แล้วจากโรงพยาบาล ให้ใช้วิธีกำจัด แบบเดียวกับการกำจัดขยะติดเชื้อของโรงพยาบาล โดยใช้ถุงพลาสติกสีแดง ติดเครื่องหมายว่า เป็นขยะติดเชื้อ เก็บรวบรวมไว้ในที่เฉพาะ กำจัดในเตาเผา และถ้าเป็นแบบที่ใช้แล้วจากสถานศึกษาหรือชุมชน ต้องมีการแยกขยะใส่ถุงพลาสติก มีป้ายบอกชัดเจนว่า เป็นหน้ากากอนามัยหรือผ้า มัดถุงให้แน่น และแยกเก็บรวบรวมไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการปนเปื้อนกับขยะอื่น”
ปัจจุบัน หน้ากากอนามัยเป็นวัสดุ สิ้นเปลืองและส่วนมากก็ไม่ได้มีการติดเชื้อ เพราะคนใส่เพื่อป้องกันตัวเองเป็นหลัก จึงเป็นที่น่าเสียดายหากนำไปกำจัดด้วยการเผาทิ้งแต่เพียงอย่างเดียว หน่วยวิจัยฯ มีความเชี่ยวชาญกับการอัพไซเคิลวัสดุเหลือทิ้งต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ขยายผลไปสู่วิสาหกิจชุมชน หรืออสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงนี้ถึงเวลาของการอัพไซคลิ่งขยะหน้ากากอนามัยที่เรียกได้ว่าเป็นขยะอันตรายกว่าขยะพลาสติกทั่วไป จึงต้องทำการกำจัดเชื้อโรคหรือทำความสะอาดหน้ากากอนามัย ใช้แล้วในเบื้องต้นด้วยการพ่นด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค แล้วอบไอน้ำแรงดันสูง ก่อนนำไปใช้งานเป็นวัสดุเสริมแรงในการผลิตวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งอาคาร จัดสวน เช่น บล็อกก่อผนังมวลเบา อิฐบล็อกประสาน บล็อกปูพื้น ฝ้าเพดาน ฯลฯ
โดยการนำข้อดีของขยะหน้ากากอนามัยที่มีความเหนียวเป็นแผ่นใยผ้าหรือพลาสติก มาเสริมความแข็งแรงให้กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้ผลิตขึ้นจากกรรมวิธีการผลิตคอนกรีต โดยช่วยในด้านการรับแรงดึง แรงดัด และช่วยลด การแตกร้าวให้กับผลิตภัณฑ์ ตลอดจนมีน้ำหนัก เบา และเป็นฉนวนความร้อนที่ดีขึ้นได้ และยัง สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในงาน DIY เป็น กระถาง ต้นไม้ ที่ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา สามารถประดิษฐ์ได้ง่ายด้วยตนเอง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและชุมชน ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการนำไปต่อยอดขยายผลผลิตและ จำหน่ายในเชิงพาณิชย์ หรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องการให้ทีมงานไปถ่ายทอดองค์ความรู้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยวิจัย วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Template file :: download-button does not exist!