การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ในประเทศจีน และต่อมาระบาดไปอีกหลายเมือง ปัจจุบันพบผู้ป่วยติดเชื้อในหลายประเทศ
1. การแพร่กระจายจากสัตว์สู่สัตว์
2. การแพร่กระจายจากสัตว์สู่คน
3. การแพร่กระจายจากคนสู่คน
1. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาด
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสเยื่อบุบริเวณใบหน้า (ตา จมูก ปาก) ด้วยมือที่ไม่ได้ล้าง
3. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือแอลกอฮอล์เจล (อย่างน้อย 60 % แอลกอฮอล์) อย่างน้อย 20 วินาที โดยเฉพาะหลังไอ จาม, ก่อนสัมผัสบริเวณใบหน้า, หลังเข้าห้องน้ำ, ก่อนรับประทานอาหาร
4. การใส่หน้ากากอนามัย องค์การอนามัยโลกและ CDC ของสหรัฐอเมริกาไม่ได้แนะนำให้ผู้ที่สุขภาพแข็งแรงใส่หน้ากากอนามัยในสถานการณ์ทั่วไป โดยแนะนำเฉพาะเมื่อต้องเป็นผู้ดูแลผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย ประเทศไทย แนะนำเพิ่มให้ใส่หน้ากากอนามัย ในกรณีที่มีโอกาสสัมผัสผู้ที่มีเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทำงานที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ เช่น โรงพยาบาล สนามบินคนขับรถ มีโอกาสต้องไปอยู่ในที่ที่อาจใกล้ชิดผู้ป่วย เช่น สถานที่แออัด
สบู่ก้อนหรือสบู่เหลว
1. ล้างมือและนิ้วมือ
2. ระยะเวลา 15 -30 วินาที
3. เมื่อมีสิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคบนมือ
4. ต้องมีอ่างล้างมือ และผ้าเช็ดมือ
การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล
1. แอลกอฮอล์เจล
2. ล้างมือและนิ้วมือ
3. ระยะเวลา15 -20 วินาทีจนแห้ง
4. เมื่อไม่มีสิ่งสกปรกบนมือ
5. ที่ไหนก็ได้
1. ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
2. เมื่อมีอาการไอหรือจาม
2.1 ให้ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษชาระ แล้วทิ้งในถังขยะหรือถุงพลาสติกหลังจากนั้นล้างมือทุกครั้ง
2.2 หากไม่มีกระดาษชาระให้ ให้ใช้ต้นแขนแทน
3. ควรอยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร และอยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก
4. ควรหยุดงาน/เรียนอย่างน้อย 7-14 วันขึ้นกับอาการ หรือจนกว่าแพทย์จะอนุญาต
5. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือแอลกอฮอล์เจลเป็นประจำ
6. ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
7. ทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสเช่น เตียง โต๊ะ ห้องน้ำด้วย น้ำยาฟอกขาว (5% โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 1 ส่วนต่อน้่ำ 99 ส่วน)
8. การทำความสะอาดเสื้อผ้า และผ้าอื่นๆ สามารถซักด้วยผงซักฟอกธรรมดา หรือด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 -90 องศาเซลเซียส
• หากมีอาการ ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ควรไปพบแพทย์ โดยระหว่างเดินทางให้
• ใส่หน้ากากอนามัย
• เดินทางด้วยรถส่วนตัว และเปิดหน้าต่าง (หากเป็นไปได้)
• เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีประวัติเสี่ยงเพื่อที่จะได้แยกไปยังจุดแยกโรคของแต่ละโรงพยาบาล
1. หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด หรือชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจานวนมาก และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ
2. ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้าและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล
3. หากมีอาการป่วย ให้สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น หากอาการไม่ดี ให้ไปพบแพทย์
1. ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามขั้นตอนการคัดกรอง ผู้เดินทาง และมาตรการป้องกันควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข
2. สังเกตอาการป่วยของตนเอง ภายใน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ โดยให้สวมหน้ากากอนามัยและแจ้งประวัติเดินทาง
3. ควรงดออกไปในที่ชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่กับจานวนมาก
4. งดการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
ขอบคุณข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค สรุปข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั้งในประเทศและทั่วโลกโดยมีทั้งสื่อความรู้ คำแนะนำ รวมทั้งแนวทางดำเนินงาน สำหรับหน่วยงาน/ผู้เกี่ยวข้อง/ประชาชนทั่วไป ดูรายละเอียดได้ที่ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia และ TRC EIDCC