ปั้นเชฟรุ่นใหม่ ยกระดับ Soft Power ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผนึกกำลัง THACCA – OFOS และ มทร.ธัญบุรี เปิดตัว “หลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ หลักสูตรพิเศษ อาหารเจ”

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) พร้อมการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จัดแถลงข่าวประชาส้มพันธุ์ โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) หลักสูตรอาหารเจ (Vegetarian Food) ภายใต้นโยบาย “หนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์” (One Family One Soft Power: OFOS) มุ่งใช้ “อาหารไทย” เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเสริมศักยภาพบุคลากรด้านอาหารไทยในระดับสากล โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ศาสตราจารย์ ดร.กฤษณ์ชนม์ ภูมิกิตติพิชญ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พร้อมด้วยนายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ร่วมเสวนา นำเสนอวัตถุประสงค์ของโครงการและทิศทางการใช้ Soft Power ไทยด้านอาหาร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและภาพลักษณ์เชิงบวกของประเทศในเวทีโลก ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพ

นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เผยว่า  โครงการ Master Thai Chef Program หลักสูตรอาหารเจ นี้ ไม่เพียงเป็นการสร้างเชฟมืออาชีพ แต่ยังเป็นการสร้างทุนมนุษย์ที่ใช้       ภูมิปัญญาอาหารไทยเป็น Soft Power เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้ให้ชุมชน และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยในเวทีโลก ผู้เข้าร่วมอบรมได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมกว่า 242 ชั่วโมง ถ่ายทอดความรู้โดยผู้เชี่ยวชาญอาหารไทยและอาหารเจ พร้อมระบบการวัดและประเมินผลตามมาตรฐานวิชาชีพ ผู้ที่สอบผ่านเกณฑ์จะได้รับ ประกาศนียบัตรจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) หรือ ใบรับรองผู้สัมผัสอาหารจากกรมอนามัย ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติสำคัญในการประกอบอาชีพในธุรกิจอาหาร โรงแรม และบริการด้านอาหารระดับนานาชาติ

ศ.ดร.กฤษณ์ชนม์ ภูมิกิตติพิชญ์ รองอธิการบดี มทร.ธัญบุรี เพิ่มเติมว่า ทาง มทร.ธัญบุรี ภูมิใจที่ได้เป็นหน่วยดำเนินการหลักสูตรนี้ เพราะนอกจากจะถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะวิชาชีพแล้ว เรายังมุ่งหวังที่จะสร้างเครือข่ายเชฟรุ่นใหม่ที่สามารถต่อยอดอาหารไทยในมิติสุขภาพและความยั่งยืน เพื่อให้ก้าวสู่เวทีนานาชาติได้อย่างมั่นใจ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านอาหารจำนวน 500 คน ครอบคลุมพื้นที่ ภูเก็ต นครสวรรค์ สุราษฎร์ธานี นนทบุรี และปทุมธานี รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง โดยจะเปิดอบรมทั้งหมด 5 รุ่น ระหว่างเดือน กันยายน 2568 – มกราคม 2569 โดยเริ่มการอบรมรุ่นแรกในเดือนตุลาคม 2568

นอกจากการสร้างเชฟอาหารไทยมืออาชีพแล้ว โครงการยังสะท้อนการใช้ อาหารไทย เป็นเครื่องมือทาง Soft Power เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยการนำเสน่ห์และภูมิปัญญาอาหารต้นตำรับ มาผสมผสานกับแนวคิดอาหารสุขภาพและอาหารทางเลือก สร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ พร้อมเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในเวทีโลก โครงการฝึกอบรม หลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ หลักสูตรอาหารเจ เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมอบรม จำนวนจำกัดเพียง 500 คน