เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 22 มี.ค. 2565
พงษ์พรรณ บุญเลิศ
การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านเป็นอีกวิธีช่วยคลายร้อน ให้ความสดชื่น นอกจากปลูกไม้ใหญ่ ไม้ยืนต้นให้ร่มเงา การทำซุ้ม ทำระแนงปลูกไม้เลื้อยต่อเติมจากตัวบ้าน หรือปลูกไม้เลื้อยในกระถาง แขวนแต่งหน้าต่าง ริมระเบียง หรือจัดสวนแนวตั้งด้วยไม้เลื้อยก็ล้วนแต่เติมบรรยากาศน่าอยู่อาศัย…
ผศ.อรัญญา ภู่รอด อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีภูมิทัศน์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีได้ให้ความรู้เรื่องพันธุ์ไม้ ให้มุมมองการปลูกไม้เลื้อย เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านว่า ช่วงหน้าร้อนต้นไม้มีบทบาทในการช่วยลดอุณหภูมิได้มากพอสมควร กลุ่มไม้เลื้อย เป็นพันธุ์ไม้ที่สามารถ ปลูกได้ตลอดทุกฤดูกาล ไม่ว่าฤดูไหนก็สามารถเลือกนำมาปลูกได้ ให้ความสดชื่นสบายตาเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้าน หรือนำมาจัดวางตกแต่งมุมพักผ่อนก็น่ามอง
“พันธุ์ไม้ที่มีผลต่อการเปลี่ยนฤดูจะเป็นกลุ่มไม้ยืนต้น ไม้ยืนต้นจะทิ้งใบ ผลัดใบ แต่ไม้เลื้อยลักษณะธรรมชาติของเขาฤดูกาลไม่มีผลต่อการเจริญเติบโต สามารถเลือกนำมาปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ ตามจุดประสงค์ที่เราต้องการปลูก แต่ทั้งนี้ก่อนนำมาปลูกคงต้องดูวัตถุประสงค์ ต้องการปลูกเพื่ออะไร อย่างเช่น เพื่อใช้ร่มเงา เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียว หรือปลูกเพื่อกรองฝุ่น ฯลฯซึ่งก็จะมีพืชพันธุ์ไม้ที่ต่างกัน”
ปลูกไม้เลื้อยเพื่อกรองฝุ่นควรเลือกพืชพันธุ์ที่มีผิวใบค่อนข้างขรุขระ หรือมีลักษณะมีขน ฯลฯ ซึ่งดูดซับฝุ่นได้ดีกว่าไม้เลื้อยที่มีผิวใบเรียบ เป็นมัน อย่างเช่น ต้นใบละบาท ลักษณะผิวใบเหมือนกำมะหยี่ เมื่อสัมผัสเหมือนมีขนซึ่งลักษณะนี้จะช่วยกรองฝุ่น ดักจับฝุ่นได้ดี และแต่ละใบมีขนาดใหญ่
แต่หากไม่ชอบพืชพันธุ์ที่ผิวใบมีขน กลัวมีความแพ้ อาจเลือกชนิดต้นไม้ที่มีใบดก ใบหนาแน่น ก็สามารถช่วยบดบังเรื่องฝุ่น ปกป้องฝุ่นได้เช่นกัน ซึ่งส่วนนี้มีหลายแนวทาง มีต้นไม้ให้เลือก อย่างเช่น เหลืองชัชวาล อีกต้นที่มีความโดดเด่น สีสันสวยให้สีเหลืองชวนสดชื่น อีกทั้งยังมีการเจริญเติบโตโดดเด่น ใบดก เป็นต้น
การปลูกไม้เลื้อยต้องพิจารณาองค์ประกอบรายละเอียด ต่าง ๆ ผศ.อรัญญา ขยายความเพิ่มว่า พื้นที่ปลูก มีความสำคัญ พืชสามารถเจริญเติบโตได้อย่างอิสระหรือไม่ หรือต้องควบคุมการเจริญเติบโตของเขา ทั้งนี้ต้องเลือกพื้นที่ ดีไซน์การปลูกให้เหมาะสม เช่นเดียวกับ ตำแหน่งการปลูก ก็มีผล ถ้าปลูกในพื้นที่ที่ต้นไม้ไม่ได้รับแสงแดด ไม่ตรงกับลักษณะความชอบของพืชก็อาจเจริญเติบโตในลักษณะที่ผิดแบบไป พื้นที่ปลูกต้องถูกกับลักษณะนิสัยของพืชพันธุ์ไม้
ส่วนถ้ามีพื้นที่จำกัด แต่มีพื้นที่ผนังอยู่พอควรก็สามารถปลูกไม้เลื้อยได้ ซึ่งมีหลายชนิดที่เติมความงาม ชวนสบายตา ยิ่งช่วงอากาศร้อนอบอ้าว เมื่อได้เห็นสีเขียวช่วยให้ความรู้สึกสดชื่น โดย ผศ.อรัญญาให้คำแนะนำ ให้ความรู้ว่า ไม้เลื้อยที่ปลูกสามารถนำมาเกาะผนัง หรือทำโครงให้เลื้อยขึ้นไปเกาะ ขึ้นอยู่กับดีไซน์ และความชอบของผู้ปลูก อย่างเช่น ตีนตุ๊กแก อาจไม่ได้ให้ร่มเงาเสียทีเดียว แต่อย่างไรแล้วขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ปลูก
“ตีนตุ๊กแกถ้าเลือกนำมาปลูก ถ้ามีการควบคุมการเจริญเติบโตให้อยู่ในกรอบของเขา อย่างเช่น กำแพงของบ้านเราไม่ให้ส่วนยอดเลยเกาะเกี่ยวกับพื้นที่ของเพื่อนบ้าน ก็เป็นอีกชนิดที่เหมาะกับพื้นที่จำกัด เลือกปลูกไม้เลื้อยเติมความเขียว ร่มรื่นสบายตา เกาะผนังเป็นกำแพงสีเขียว สร้างความสดชื่นให้กับบ้านได้”
เคราฤาษี ก็มีความน่าสนใจ เป็นไม้เลื้อยที่อิสระ ไม่ต้องอาศัยกำแพง หรือสิ่งค้ำจุนช่วยให้ตั้งตัว หรือช่วยในการเลื้อย ถ้าปลูก ในกระถางยอดจะยาวลงมา และในกระถางก็ไม่จำเป็นต้องมีวัสดุปลูก เพราะพืชชนิดนี้เป็นรากอากาศ อาจให้เกาะกับลูกมะพร้าว อยู่ในกระเช้าไม้ เกาะกับลวดแขวนไว้ตามชายคา ขอบหน้าต่าง ตกแต่งไว้มุมใดมุมหนึ่งในพื้นที่จำกัด ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศสีเขียว ส่วนการดูแลก็รดน้ำ ให้ปุ๋ยทางใบบ้างก็จะอยู่ได้
“ในกลุ่มไม้เลื้อย จะมีลักษณะการเลื้อยอยู่หลายแบบ มีไม้เลื้อยที่สามารถเจริญเติบโตไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องควบคุมการเจริญเติบโต ให้เลื้อยทอดยาวลงมา ซึ่งก็มีหลายชนิดให้เลือกปลูก ไม้เลื้อยเป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ที่มีความน่าสนใจ ทั้งยังเป็นที่นิยมในการนำไป จัดสวนแนวตั้ง”
จากที่กล่าวไม้เลื้อยสามารถปลูกในกระถาง หรือแขวน จากที่กล่าวนอกจากเคราฤาษี ยังมี ต้นเดป ก็เห็นบ่อยปลูกในกระถางแขวนแล้วปล่อยให้ทอดยอด ให้ความงาม อีกทั้งมี ลิปสติก ก็ดูมีเสน่ห์ ปลูกในกระถางปล่อยให้เลื้อย แต่จะไม่ยาวมาก ไม่ระพื้น ส่วนถ้าให้ร่มเงาด้วย อาจต้องเข้าใจก่อนว่าไม้เลื้อยเป็นพืชพันธุ์ ที่ไม่สามารถพยุงตัวเองอยู่ได้ ถ้าจะปลูกเพื่อประโยชน์ด้านร่มเงาคงต้อง ทำซุ้มให้กับต้นไม้ เลื้อยเกาะเกี่ยว ด้านล่างซุ้มอาจดีไซน์เป็นที่นั่ง พักผ่อน หรือจัดทำเป็นซุ้มสำหรับเดินลอดตกแต่งสวนในบ้าน
“พันธุ์ไม้ที่จะนำมาปลูกสามารถเลือกปลูกได้หลากหลาย ถ้าต้องการสีสันก็มีเหลืองชัชวาล หรือถ้าชอบดอกไม้โทนสีชมพูก็มี พวงชมพู หรือถ้าเป็นโทนม่วงมี พวงคราม ฟ้าประดิษฐ์ หรือโทนสีสด ๆสีอื่นมี พวงแสด การะเวก กระดังงา ก็พบเห็นได้บ่อย โดยแต่ละชนิดมีความน่าสนใจ มีความงาม”
แต่อย่างไรแล้วถ้าต้องการปลูกเพื่อให้ร่มเงา ต้องระมัดระวังเรื่องการรับน้ำหนักของตัวลำต้นเขาด้วย เมื่อต้นไม้เติบโตและมีอายุมากขึ้น ลำต้นจะมีน้ำหนักเพิ่มก็ต้องคำนึงถึง ซุ้มต้องมีความแข็งแรง และที่สำคัญการปลูกต้นไม้ต้องดูแล ไม่ปล่อยให้รก
“กรณีที่ปลูกต้นไม้ขึ้นซุ้มต้องดูแล ตัดแต่งเก็บใบแห้ง ใบที่หลุดร่วง ไม่เช่นนั้นจะหมักหมม ใบเน่า หรือเป็นที่อยู่ของสัตว์มีพิษมาอาศัยอยู่ แม้กระทั่ง ไม้อวบน้ำ พลูด่างชนิดต่าง ๆ กลุ่มนี้ก็มีความน่าสนใจ นำมา สร้างความรื่นรมย์ให้กับบ้านได้ โดยมีหลายชนิด และที่สำคัญกรณีปลูกไม้เลื้อย ต้องไม่ไปรบกวนพื้นที่เพื่อนบ้าน ให้ความระวังส่วนนี้ด้วย”
การปลูกไม้เลื้อยสามารถดีไซน์ได้หลากหลาย โดยให้ต้นไม้เลื้อยลงด้านล่าง หรือจากด้านล่างขึ้นด้านบนก็สามารถออกแบบการปลูกได้ จากที่กล่าวพันธุ์ไม้เลื้อยมีความโดดเด่น มีเสน่ห์ บางชนิดนอกจากสีสันใบ ยังมีรูปทรงดอกสวย มีอายุยืน อย่างในกลุ่มไม้เลื้อยเนื้อแข็ง พวงคราม เล็บมือนาง ถ้าปลูกและดูแลได้ดีจะอยู่ให้ความงามยาวนาน
“พวงคราม ดอกมีความโดดเด่นสวยงามซึ่งก็มีหลายพันธุ์ ให้ดอกเป็นพวงสีโทนน้ำเงินม่วง แต่กลิ่นจะไม่หอม ดอกเป็นช่อยาว ยิ่งปลูกขึ้นซุ้มดอกจะห้อยย้อยลงมาและถ้าออกมาพร้อมกันจะยิ่งน่าหลงใหล ในปัจจุบันจะเห็นดอกสวยงามเหล่านี้แทบตลอดปี แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นไม้”
นอกจากนี้ยังมี พวงโกเมน มาลัยทอง เมื่อออกดอกจะ ห้อยย้อยออกมาด้านล่าง สวยงามไม่แพ้กัน พวงชมพูก็ให้ดอกตลอดปีแต่จากที่กล่าวต้องดูแลเรื่องใบ ถ้าเป็นต้นที่มีอายุจะทิ้งใบด้านล่าง มีใบเฉพาะส่วนยอด และด้วยที่เติบโตเร็วจึงต้องหมั่นดูแล ควบคุมใบที่ร่วงที่ฝังอยู่ตามต้น ไม่ปล่อยค้างไว้เพราะจะเหมือนต้นโทรม ไม่สวยงาม
อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีภูมิทัศน์ ผศ.อรัญญา ให้มุมมองทิ้งท้ายอีกว่า ยังมีไม้เลื้อยที่มีกลิ่นหอม ในช่วงกลางคืน มะลิวัลย์ ปันหยี อีกทั้ง การะเวก กระดังงา ก็มีกลิ่นหอมและนิยมปลูกเป็นซุ้ม ฯลฯ ไม้เลื้อย ไม้ในกลุ่มนี้จากที่กล่าวสามารถเลือกนำมาปลูกได้ตลอดทุกฤดูกาล เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านสดชื่น
แต่ที่สำคัญการปลูกต้นไม้ต้องดูแล เข้าใจในพืชพันธุ์ไม้อย่างถูกต้อง เพื่อให้คงความสมบูรณ์ สวยงาม…
คงความสดชื่น ความร่มรื่นต่อเนื่องไปทุกฤดูกาล.
“ไม้เลื้อย เติมสดชื่นเพิ่มพื้นที่สีเขียวคลายร้อน”