คอลัมน์ เดลินิวส์วาไรตี้: โดดเด่นมีสไตล์’ต้นไม้มินิมอล’ เทคนิคเลือกซื้อ…ดูแลให้รอด

เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 05 สิงหาคม พ.ศ. 2563
ศราวุธ ดีหมื่นไวย์
กลายเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง สำหรับเทรนด์ต้นไม้มินิมอล ที่หลายคนต่างเลือกซื้อ จนทำให้ตอนนี้เกษตรกรที่เพาะกล้าขายทำกันแทบไม่ทัน แน่นอนว่าการเลี้ยงดูให้เติบโต หากไม่มีความรู้ กล้าไม้ที่ซื้อมาอาจเหี่ยวแห้ง และโรยราอย่างรวดเร็ว
พิศาล ตันสิน อาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เล่าว่า ต้นไม้สไตล์มินิมอล ในต่างประเทศเป็นกระแสนิยม ในการนำมาปลูกภายในอาคารมานานกว่า 10 ปี ซึ่งต่างประเทศมีกระบวนการจัดการในการนำต้นไม้มาหมุนเวียนในอาคาร เช่น หลังจากวางไว้ในห้อง 15 วัน จะนำต้นไม้ชุดใหม่มาวางแทน โดยนำต้นไม้ชุดเดิมออกมารับแดด และลมในพื้นที่นอกอาคาร การหมุนเวียนต้นไม้แบบนี้ เพื่อให้ต้นไม้มีความสมบูรณ์
ซึ่งกระแสความนิยมในไทย ตอนนี้เกิดจากโซเชียล ที่มีดารานิยมปลูกต้นไม้ จนหลายคนไปหาซื้อต้นไม้มาประดับตกแต่งบ้าน ขณะเดียวกันก็เกี่ยวโยงกับการนำต้นไม้มาฟอกอากาศในบ้าน โดยที่ผ่านมามีการวิจัยว่า สามารถดูดซับฟอร์มาลีนจากไม้ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ เลยทำให้ตลาดต้นไม้ตอนนี้ค่อนข้างคึกคัก เป็น กระแสที่หลายคนไม่คาดคิดมาก่อน
“ประกอบกับช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 คนไทยส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน ทำให้หลายคนเริ่มหากิจกรรมทำกันในบ้าน ซึ่งการปลูกต้นไม้ถือเป็นกิจกรรมที่ทำได้ทั้งครอบครัว ขณะเดียวกันต้นไม้ที่ประดับภายในอาคารก็เพิ่มบรรยากาศ ลดความแข็งกระด้างภายใน ทำให้เวลามองเกิดความสดชื่น”
ต้นไม้สไตล์มินิมอล ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ที่มีทรงใบสวย เพราะในทางวิชาการ ต้นไม้ที่มีใบเงางาม จะทนต่อสภาพอากาศในอาคาร เพราะอัตราการคายน้ำของต้นไม้มีน้อยกว่าประเภทไม้ดอก ดังนั้นเราจะเห็นว่า ต้นไม้บางชนิดที่ไม่เหมาะกับการปลูกในอาคาร พอมาตั้งไว้ ไม่นานใบจะร่วง เนื่องจากต้นไม้ต้องรักษาตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด เลยต้องปลิดใบทิ้ง
ด้วยรูปทรงของลำต้น และใบที่ มีความโดดเด่น ทำให้ถูกใจคนรุ่นใหม่เพราะเมื่อนำมาวางในบ้านแล้วดูไม่เกะกะ แถมยังมีกระถางที่มีรูปทรงทันสมัยรับกับตัวลำต้น ทำให้เกิดความนุ่มนวล เมื่อนำมาวางในมุมบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์เยอะ ๆ
โดยต้นไม้ที่นิยมเลี้ยงมากตอนนี้ได้แก่ ยางอินเดีย, ไทรใบซอ หรือไทรใบสัก, เฟิร์น, วาสนา, มอนสเตอร่า, หน้าวัวใบ, ลิ้นมังกร, กวักมรกต ซึ่งการเลือกซื้อขึ้นอยู่กับการนำไปตกแต่งในมุมที่เหมาะสม เพราะบางต้นที่สูงใหญ่เกินไปอาจไม่เหมาะกับบ้านที่เป็นคอนโด
นอกจากรูปทรงของต้นไม้ที่ถูกใจคนรุ่นใหม่แล้ว กระถางเป็นอีกอุปกรณ์เสริม ที่ทำให้ต้นไม้มีความโดดเด่น ซึ่งตอนนี้ในตลาดมีทั้งที่เป็นกระถางรูปทรงโรมัน หรือปูนเปลือย บางที่ใช้กระถางพลาสติกสีสันสวยงาม วางเป็นกระถางด้านนอก โดยมีกระถางจริงอยู่ด้านใน เพื่อง่ายในการสับเปลี่ยนต้นไม้ภายในห้อง
สำหรับคนที่สนใจนำต้นไม้มาตกแต่งภายในบ้าน อาจไม่จำเป็นต้องซื้อต้นไม้ที่ดัง ๆ ราคาสูงมาตกแต่ง แต่อาจนำต้นไม้แบบไทยที่มีอยู่เดิมแล้วมาตกแต่ง เช่น ต้นวาสนา, สาวน้อยประแป้ง ซึ่งมีราคาไม่แพงมาตกแต่งได้ เพราะตอนนี้ต้นไม้ที่เป็นที่นิยมจะมีราคาสูง
ในส่วนของการดูแลรักษา สำหรับต้นไม้ที่อยู่ภายในอาคาร ช่วงเช้า หากที่บ้านมีหน้าต่างที่แสงแดดส่องถึง อาจนำต้นไม้ไปวางรับแสงแดดสัก 15 นาที หรือวิธีการสังเกตง่าย ๆ ว่าต้นไม้ที่วางอยู่ในบ้านเริ่มจะต้องการแสงแดด ขอบใบจะแห้งไล่เข้ามายังตัวก้านใบด้านใน แต่ถ้าต้นไม้มีอาการขาดน้ำ ตัวใบจะตก ไล่ตั้งแต่ใบล่างสุดมาจนถึงใบด้านบน ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นการเตือนว่า เรารดน้ำเยอะมากเกินไป จนรากอาจเน่าได้
“ต้นไม้ที่ไว้ในอาคารนาน ๆ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับเพลี้ยแป้ง ที่อยู่ตามซอกใบ ดังนั้นเราจะแก้ปัญหาโดยนำต้นไม้ไปไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ภายนอกบ้าน 2-3 วัน เพื่อให้ต้นไม้ปรับตัวกับสภาพอากาศภายนอกก่อน ซึ่งทางที่ดีที่สุด ไม่ควรนำต้นไม้ไปวางไว้ในห้องหรืออาคารเกิน 1 อาทิตย์ แต่ควรมีการหมุนเวียน นำมารับแดดลมในพื้นที่ข้างนอกบ้าง”
แต่สิ่งที่ต้องระวัง ในต้นไม้ที่ไว้ในห้องแอร์นาน ๆ เมื่อนำออกไปตากแดดทันทีย่อมมีผลทำให้ต้นไม้ตายได้ เพราะต้นไม้เหมือนกับคน ที่พออยู่ในห้องแอร์นาน ๆ แล้วออกไปตากแดดทันทีอาจเกิดอาการหน้ามืด เนื่องจากตอนที่อยู่ในอาคารเซลล์ที่อยู่ในใบของต้นไม้จะมีลักษณะที่อ่อนแอ พอออกมาโดนแดดทันที จะเกิดอาการใบไหม้
ข้อโดดเด่นในส่วนของวัสดุที่นำมาปลูกต้นไม้สไตล์มินิมอล ส่วนใหญ่จะใช้กาบมะพร้าวสับมากกว่าใช้ดิน เพราะกาบมะพร้าวระบายน้ำได้ดี เนื่องจากรากพืชชนิดนี้ไม่ชอบความชื้นแฉะ แต่ถ้าใส่ดินมาก พอใส่ปุ๋ยเข้าไปนานเข้าดินจะเป็นกรด จนทำให้ต้นไม้ตายได้ อีกสิ่งที่สำคัญคือ เมื่อใช้กาบมะพร้าวจะทำให้กระถางมีน้ำหนักเบาสามารถขนย้ายในบ้านได้ง่ายกว่าการปลูกในดิน และมีโอกาสเกิดเชื้อราได้น้อยกว่า
“ปุ๋ยที่นิยมใส่จะเป็นออสโมโค้ท ที่ค่อยๆ ละลาย เราสามารถใส่ลงไป 2 เดือน แล้วค่อย ๆ ปล่อยให้ปุ๋ยละลายทีละน้อย ๆ ดีกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีที่ใส่แล้วละลายหาย ไปหมด แต่ถ้าใส่ปุ๋ยออสโมโค้ท มากเกินไปก็ไม่ดี เพราะการละลายของปุ๋ย ก่อนที่มันจะละลายจะดูดความชื้นจากบรรยากาศรอบ ๆ โดยเฉพาะความชื้นจากราก ที่ทำให้ต้นไม้ตายได้ ดังนั้นการใส่ปุ๋ยที่ดี ควรใส่ปุ๋ยน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง”
ขณะเดียวกันด้วยความที่ต้นไม้สไตล์มินิมอล เป็นที่ต้องการของตลาดมาก ผู้ขายอาจฉีดน้ำยาเคมีเพื่อให้ต้นไม้มีความสวยงาม ทางที่ดีเมื่อซื้อมา ควรนำต้นไม้ตั้งไว้ด้านนอกบ้านประมาณ 3 วัน เพื่อให้สารเคมีที่ฉีดมาเจือจางเสียก่อน ไม่ควรนำไปตั้งในห้องทันที เพราะบางครั้งเราไม่รู้ว่าต้นไม้ผ่านการฉีดสารเคมีมาหรือไม่
ต้นไม้สไตล์มินิมอล เป็นอีกกระแสหนึ่ง ที่ทำให้ตอนนี้ตลาดต้นไม้หลายแห่งมีผู้คนมาเลือกซื้อไม่ขาดสาย และทำให้หลายคนซึมซับแนวคิดการอนุรักษ์ธรรมชาติ ผ่านต้นไม้เหล่านี้ด้วย.