มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563
นายสมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมระหว่างนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และอธิการบดี มทร.ทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ นายสุวิทย์ได้แนะนำให้ มทร.จะต้องทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในพื้นที่ ติดอาวุธทาง ปัญญาให้ชุมชนเน้นการทำงานเชิงรุก เน้นการแก้ปัญหาให้ชุมชนสนองความต้องการของคนในพื้นที่ ซึ่งในส่วนของ มทร.ธัญบุรีนั้น ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่าหลายปีที่ผ่านมา มทร.ธัญบุรีได้เปิดสอนรายวิชานวัตกรรมชุมชนซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาลงพื้นที่นำความรู้ที่เรียนประยุกต์ให้ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน ซึ่งได้รับคำชื่นชมจาก รัฐมนตรีว่าการ อว.อย่างมาก
อธิการบดี มทร.ธัญบุรีกล่าวว่า นอกจากรายวิชานี้แล้ว มทร.ธัญบุรี ยังมีโครงการ Area Base นำงานวิจัยไปช่วยเหลือชุมชนเน้นไปที่ จ.ปทุมธานี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่ม ยกระดับพร้อมตั้ง เป้าหมายให้ชุมชนมีรายได้ที่ดีขึ้น รวมถึงยังมีโครงการ 84 ชุมชน โดยทุกคณะเลือก 84 ชุมชนที่ต้องการลงไปยกระดับโดยใช้ความรู้ความสามารถของมหาวิทยาลัย
ด้านนายณัฐ แก้วสกุล ผู้อำนวยการกองพัฒนานักศึกษา ในฐานะผู้ประสานงานรายวิชานวัตกรรมเพื่อชุมชน กล่าวว่า รายวิชานี้เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ปี 2561 โดยยึดถือตามแนวพระราชดำริศาสตร์พระราชา นำหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ โดยเริ่มแรกได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิรากแก้ว นำอาจารย์ที่มีจิตอาสา ดูงานของมูลนิธิที่มุ่งพัฒนาชาวบ้านบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากนั้น มทร.ธัญบุรีจึงนำแนวคิดนี้มาปรับบริบทให้ตรงกับมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นนวัตกรรม จึงทำให้เกิดรายวิชานวัตกรรมเพื่อชุมชนขึ้นมา โดยของ มทร.ธัญบุรีไม่เน้นเฉพาะการลงพื้นที่เพื่อดูงาน แต่จะต้องลงมือปฏิบัติ จุดเด่นของรายวิชานี้จะมีนักศึกษา ชั้นปีที่ 3-4 จากทุกคณะเข้าเรียน ทำให้ทุกคนต่างนำความรู้ที่ได้เรียนมาบูรณาการสร้างโครงงาน นวัตกรรมขึ้นมา ซึ่งจากปีแรกที่เปิดมีนักศึกษาสนใจเรียน 14 คนเท่านั้น แต่ในปีนี้มีนักศึกษาลงทะเบียนเกือบ 300 คน