ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
ไชยรัตน์ ส้มฉุน
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าและผลผลิตทางการเกษตร
เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลา Toman หรือปลาชะโดเพื่อการส่งออกไปมาเลเซียและสิงคโปร์ เป็นอีกกลุ่มที่ถูกผลกระทบ ทำรายได้เป็นศูนย์ เกษตรกรจำเป็นต้องหาหนทางจำหน่ายในประเทศ เพื่อระบายผลผลิตที่คั่งค้างให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนมาหล่อเลี้ยงชีวิต
“กลุ่มมีสมาชิกกว่า 20 รายใน 8 จังหวัด มีพื้นที่การเลี้ยงมากกว่า 1,000 ไร่ นำพันธุ์ปลาขนาด 1-4 นิ้วมาเลี้ยงในกระชัง เมื่อโตเกิน 4 นิ้ว นำไปปล่อยเลี้ยงลงบ่อ เลี้ยงไปได้ 1 ปีจะมีน้ำหนักตัวละประมาณ 4 กก. แล้วนำมาแล่เอาเฉพาะเนื้อแช่แข็งส่งไปสิงคโปร์ มาเลเซีย ทางเครื่องบิน ได้ราคาเฉลี่ย กก.ละ 300 บาท มีออเดอร์เดือนละ 15 ตัน นับตั้งแต่โควิดระบาดขายไม่ได้เลย”
นายณรงศักดิ์ พู่วรรธนะ หรือจ๊อด วัย 47 ปี ประธานกลุ่มจ๊อดปลาชะโดไทย บ.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี บอกถึงสถานการณ์ที่กำลังประสบพบเจอเป็นครั้งแรกนับแต่เลี้ยงปลา Toman มานานกว่าสิบปี
“ครั้นจะเอามาขายในบ้านเราคงขายไม่ออกเพราะคนไทยไม่นิยมบริโภค เนื่องจากยึดติดกับความเชื่อเก่าๆว่ารสชาติไม่อร่อย มีกลิ่นสาบ ทั้งที่ปลาชะโด Toman ที่เราเลี้ยงส่งออกเป็นปลาชะโดพันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ ประกอบกับอาหารที่ใช้เลี้ยงเป็นปลาสด อย่างปลาทู ปลาข้างเหลือง รสชาติความอร่อยจึงไม่เหมือนปลาชะโดในธรรมชาติ เลยเป็นที่นิยมกันในสิงคโปร์และมาเลเซีย”
เพื่อให้ปลา Toman สามารถขายในประเทศไทยและจูงใจให้คนไทยบริโภคมากขึ้น กลุ่มจ๊อดปลาชะโดไทยจึงได้จับมือกับสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จัดทำเมนูอาหารที่สอดคล้องกับเนื้อปลาในเมนูยอดนิยมของคนไทย
มีทั้งพะแนง แกงเขียวหวาน สะเต๊ะ ต้มยำน้ำข้น ผัดพริกไทยดำ ต้มซีอิ๊วญี่ปุ่น ต้มข่า กระเพาะปลา และข้าวหมกปลา…แตกต่างจากคนมาเลเซีย สิงคโปร์ ที่นิยมนำไปทำสเต๊กปลาชะโดเสียเป็นส่วนใหญ่
สนใจชิมเนื้อปลาชะโดในมิติใหม่ สอบถามได้ที่ 06-3549-9422.