เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2563
y_38@dailynews.co.th
หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่เชื้อไวรัสกำลังระบาด รวมไปถึงปัญหามลพิษทางอากาศที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งปัญหาที่ตามมาก็คือขยะจากหน้ากากอนามัยที่ถูกใช้แล้วทิ้ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวว่า หน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้ง ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงแต่บุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ผู้คนส่วนใหญ่ก็มีความต้องการการใช้งานหน้ากากอนามัยชนิดนี้ โดยหน้ากากอนามัยชนิดมาตรฐานนี้ ประกอบด้วยโครงสร้างผ้าแบบนอนวูฟเวนจำนวน 3 ชั้น ได้แก่ สปันบอนด์, เมลท์โบรน, สปันบอนด์ โดยชั้นที่มีความสำคัญในการกรองคือชั้น เมลท์โบรน ซึ่งมีขนาดเส้นใยขนาดเล็ก และช่องว่างในโครง สร้างต่ำมาก หรือน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร ทำให้สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็ก หรือ หยดละอองของเหลวได้ (Droplets) ที่มีขนาดมากกว่าช่องว่างในโครงสร้างชั้น กรองได้
สำหรับการผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศไทยนั้น มักนำเข้าชั้นเมลท์โบรนจากต่างประเทศ เนื่องจากต้องใช้พอลิเมอร์ชนิดพิเศษและเทคนิคพิเศษในการขึ้นรูป เพื่อให้ได้เส้นใยที่มีขนาดเล็กในระดับไมโครเมตรถึงนาโนเมตร เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการกรองที่ต้อง การ ไม่เพียงเท่านั้นวัสดุพอลิเมอร์ตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตโครงสร้างดังกล่าว ได้มาจากพอลิพรอพิลีน (PP) หนึ่งในพลาสติกประเภทเทอร์โมพลาสติกได้มาจากปิโตเลียมเบส เมื่อหน้ากากอนามัยเหล่านี้ถูกใช้งานแล้ว ถูกทิ้งในระบบฝังกลบจะไม่สามารถย่อยสลายได้ (มากกว่า 400 ปี) อีกทั้งยังพบว่าช่วงวิกฤติการณ์นี้ ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากขยะหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย กล่าวว่า เพื่อลดปริมาณขยะดังกล่าว ทางคณะ ผู้วิจัยอาจารย์และนักศึกษาระดับปริญญา เอกคณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นโครงการ พัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) ได้รับทุนสนับสนุนจาก สกว. คิดค้น แผ่นกรองชนิดเปลี่ยนได้และสามารถย่อยสลายได้ ใช้คู่กับหน้ากากอนามัยชนิดที่สามารถเปลี่ยนชั้นกรองและซักได้หลายครั้ง เพื่อเป็นหน้า กากอนามัยทางเลือกทดแทนหน้า กากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้ง
งานวิจัยนี้ มุ่งเน้นศึกษาและพัฒนาแผ่นกรองชั้นเมลท์โบรนที่มีขนาดละเอียดจากพอลิแลคติกแอซิด (Polylactic acid, PLA) หนึ่งในพอลิเมอร์ทางชีวภาพ สังเคราะห์ได้จากกรดแลคติกแอซิด ได้มาจากแหล่งทรัพยากรที่สามารถปลูกทดแทนได้ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง เมื่อใช้แล้วทิ้งในระบบฝังกลบที่มีสภาวะเหมาะสม สามารถย่อยสลายได้ในระยะเวลา 4-6 เดือน ขึ้นรูปแผ่นกรอง ด้วยผ่านกระบวนการขึ้นรูปแบบพิเศษ ซึ่งมีหลักการเรียกว่า กระบวนการปั่นหลอมแบบพ่น ลักษณะชิ้นงานที่ได้ เรียกว่า นอนวูฟเวนหรือผ้าไม่ถักไม่ทอ ได้เส้นใยขนาดเล็กระดับไมโครเมตร มีประสิทธิภาพในการกรองสูง
สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ เป็นการร่วมระหว่าง มทร. ธัญบุรี และ Kyoto institute of technology.
Template file :: download-button does not exist!