กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563
ทีมข่าวคุณภาพชีวิต
qualitylife4444@gmail.com
ไทยเตรียมพร้อมรับมือ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” ด้วยการตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทุกจังหวัด และ ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ สวมหน้ากากอนามัย โดยคนที่ไม่ป่วยขอให้ใช้หน้ากากผ้าทำเองเพื่อป้องกันและลดขยะ ส่วนผู้ที่มีอาการป่วย ให้สวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์โดยให้นำด้านที่เป็นสีเขียวออกข้างนอก นำสีขาวที่มีความอ่อนนุ่มไว้ด้านใน
กรุงเทพธุรกิจ แนวปฏิบัติรับมือโรคระบาดที่นานาประเทศนำมาปฏิบัติคือ การชะลอจุดพีคของการระบาดให้ได้นานที่สุด และเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุด ถ้ามีการแพร่ระบาดในประเทศ เพราะการชะลอ ออกไปเป็นเรื่องที่ดีและจำเป็นต้องทำให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์คนป่วยเต็ม โรงพยาบาล นั้นหมายถึงว่าอุปกรณ์ ยารักษา และบุคคลากรทางการแพทย์อาจจะไม่เพียงพอ ที่สำคัญต้องปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ไม่ให้ติดเชื้อด้วย
ขณะเดียวกันองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้สำรองยาและเวชภัณฑ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ มีการเตรียมสำรองหน้ากากสำหรับดูแลประชาชนทั่วไป และหน้ากากสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เช่น หน้ากาก N95 ขณะนี้มีการสำรองไว้ประมาณ 500,000 ชิ้น ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องหน้ากากอนามัย เพราะจะมีเพียงพอแน่นอน เพราะนอกจากหน้ากากอนามัยแล้วก็ยังมีในส่วนของ ห้างร้านที่มีการนำมาจำหน่ายด้วย ส่วนพื้นที่ ที่หน้ากากขาดแคลนคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า น่าจะกระจายไปได้ทั่วประเทศ
วธ.เฝาระวังสถานที่ท่องเที่ยว
อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ) กล่าวว่าปัจจุบันมีแหล่งเรียนรู้และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ของกระทรวงวัฒนธรรม ได้แก่พิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติ 41 แห่ง อุทยานประวัติศาสตร์ 10 แห่ง หอสมุดแห่งชาติ 12 แห่ง และ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ 11 แห่งมีนักท่องเที่ยว ชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าชมแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว ทางวัฒนธรรม ในปีงบประมาณ 2563 (เดือน ต.ค.๖๒ – ธ.ค.๖๒) จำนวนกว่า ๓ ล้านคน/รูป เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีผ่านมาร้อยละ ๘.๓๐
โดยได้สั่งการให้บุคลากรและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคทำความความสะอาดตามสถานที่ต่างๆ อย่างละเอียด ติดตั้ง เจลแอลกอฮอล์ล้างมือบริเวณประตู ทางเข้า-ออก และตามจุดต่างๆ รวมทั้ง ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและผู้มาติดต่อราชการ สวมหน้ากากอนามัยป้องกัน การติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันดังกล่าวในสถานที่จัดงาน หรือ กิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นแหล่งชุมนุมคนจำนวนมาก อีกด้วย
มสด.ดูแลนศ.จีนและไทย
รศ.ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ออกมาตรการการเผ้าระวังนักศึกษาจีนอย่างใกล้ชิด โดยอนุมัติให้เลื่อนเปิดเทอมเป็น วันอังคารที่ 11 ก.พ. 2563 และหลังจากเดินทางกลับ จากประเทศจีนมาแล้ว ต้องรายงานตัวต่อ มหาวิทยาลัยฯ ตรวจร่างกายและบันทึกประวัติ โดยขอความร่วมมือกับโรงพยาบาลวชิระ ให้มาดำเนินการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และจัดตารางสอนชดเชยให้กับนักศึกษาจีน ภายหลัง
พร้อมทั้งบริการจัดเตรียม เจลล้างมือ เพื่อใช้ทำความสะอาดและลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคประจำอาคาร และจุดต่างๆ ที่มี ผู้สัญจร และได้เพิ่มการทำความสะอาดใน ห้องเรียน สำนักงาน ราวบันได ห้องน้ำ ลิฟท์ โดยสาร ฯลฯ อย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ น้ำยาฆ่าเชื้อและใช้เครื่องอบโอโซนฆ่าเชื้อหลังเลิกเรียน พร้อมทั้ง จัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ไว้บริการที่ห้องพยาบาล
นศ.มทร.ธัญบุรีกลับจากจีนแล้ว
ผศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด รักษาราชการ แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้นักศึกษาของมทร.ธัญบุรี จำนวน 13 คนที่เดินทางไป ฝึกงานสหกิจศึกษา ที่เมืองกวางโจว และเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เดินทาง กลับถึงประเทศไทยแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมามีสภาพร่างกายและจิตใจที่ปกติ ไม่พบอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ห่าง จากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคหลังจากกลับมานั้นได้ขอความร่วมมือให้อยู่ในที่ พักอาศัย เพื่อรอสังเกตอาการ จึงจะเริ่มฝึกงานต่อในสถานประกอบการของประเทศไทย ส่วนนักศึกษาจีน จำนวน 3 คน ที่เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านก่อหน้านี้ มหาวิทยาลัยได้ขอให้เลื่อนการเดินทางกลับไปอีก 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะทำการสอนเสริม ให้กับนักศึกษากลุ่มดังกล่าว
นศ.อาชีวะ8คนอยู่ในอู่ฮั่น
ณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า มีนักศึกษา จากวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานีที่ไปฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพอยู่ที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีการต่อเรืออู๋ฮั่น) มณฑลหูเป่ยจำนวน 8 คน ได้รับการดูแล เป็นอย่างดีตรวจวัดไข้วันละ 2 ครั้ง ห้ามออก จากห้องพักเว้นแต่จำเป็น และต้องมี อุปกรณ์ป้องกันในพื้นที่ระบาดของโรค ซึ่งมีกำหนดเดินทางกลับวันในที่ 20 ก.ค. 2563
“นักเรียน นักศึกษา ทั้ง 8 คน มีความประสงค์จะกลับประเทศไทยมีกำหนดเดินทางกลับวันในที่ 20 ก.ค. 2563 ซึ่งจากการวีดีโอคอล พูดคุยกับนักศึกษา ในวันนี้ นายธนวัฒน์ บุญต่อ หนี่งในนักศึกษาที่อยู่ที่สถานศึกษาของฝากบอกว่า คิดถึงแม่มาก และทุกคนยกมือ บอกว่าอยากกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอการประกาศจากรัฐบาลจีน ในเรื่องของการ เดินทาง” เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าว
ส่วนที่วิทยาลัย Chongqing Business Vocational College เมืองฉงชิ่ง มี 28 คน เดินทางกลับถึงประเทศไทยเรียบร้อยวานนี้ (30 ม.ค.) และวันนี้ (31 ม.ค.) วิทยาลัย Xingtai Polytechnic College มณฑลเหอเป่ย 28 คน และ Hunan Technical College of Railway High-Speed มณฑลหูหนาน 34 จะเดินทางมาถึง ไทยเช่นกัน
ผู้ที่เดินทางกลับจากสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ให้หยุดพักการเรียนและพักปฏิบัติงานได้จำนวน 14 วัน โดยไม่ถือเป็นการขาดเรียน และไม่เป็นวันลา และให้สถาบันการศึกษาในสังกัดเฝ้าระวังการระบาดอย่างเข้มข้น
สร้างภูมิคุ้มกันไวรัสโคโรนา
กรุงเทพธุรกิจ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้ความรู้ผ่าน เฟซบุ๊คแฟนเพจ “สมุนไพรอภัยภูเบศร” ถึงไวรัสโคโรน่าที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ ในขณะนี้ว่า ไวรัสอู่ฮั่น คือไวรัสกลุ่ม coronavirus สายพันธุ์ใหม่ใช้ชื่อว่า 2019 novel coronavirus (2019-nCoV) พบการระบาดที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เริ่มต้นมีรายงานครั้งแรกในเดือน ธ.ค. 2019 ทำให้เกิดการติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ ลักษณะอาการที่พบบ่อย คือ ไข้ ไอ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย หอบเหนื่อยหากมีอาการรุนแรง อาจทำให้เกิด ภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ปัจจุบันไม่มีวัคซีนป้องกันไม่มี ยารักษา การรักษา เป็นการรักษาตามอาการ CDC หรือหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control) แนะนำหนทางที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโดยมีวิธีแนะนำ เช่น ล้างมือบ่อยๆ นานอย่างน้อย20วินาที ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
โดยเฉพาะหากยังไม่ได้ล้างมือหลีกเลี่ยง การอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ไม่ออกไปในสถานที่ คนแออัดในที่ชุมชนควรสวมหน้ากากอนามัย หากไอหรือจาม ต้องหาผ้าหรือทิชชูปิด และทิ้งถังขยะให้เป็นสัดส่วนทำความสะอาดฆ่าเชื้อ บริเวณที่อยู่อาศัย หรือพื้นผิวที่ต้องสัมผัสในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
ดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาล เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่หลายประเทศ ทั้งในสแกนดิเนเวีย จีน อินเดีย ไทยใช้ มีความปลอดภัย ในส่วนประสิทธิผลนั้นยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับไวรัสอู่ฮั่น เพราะเป็น สายพันธุ์ใหม่ แต่หากพิจารณาจากอาการนั้น ผู้ป่วยจะมีอาหารเหมือนเป็นหวัดทั่วๆ ไป และแยกออกจากหวัดทั่วไปได้ยาก การมีเครื่องมือให้ประชาชนดูแลตนเองจึงมีความสำคัญ เพราะฟ้าทะลายโจรช่วยต้านหวัด ลดการอักเสบที่ปอด เพิ่มภูมิคุ้มกัน และยังมีสิทธิบัตรในการต้านไวรัสซาร์ สุดท้ายในแง่การพึ่งตนเอง ฟ้าทะลายโจร ปลูกง่าย ใช้ง่าย อีกทั้งยังเป็นยาในบัญชี ยาหลักแห่งชาติ ประชาชนเข้าถึงง่าย บุคลากรทางการแพทย์มีองค์ความรู้ในการ ดูแลความปลอดภัยและประสิทธิผลที่ดี จึงนำเสนอสมุนไพรนี้มาให้ความรู้กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม การป้องกันโดยเฉพาะไวรัสอู่ฮั่นนั้น ดร.ผกากรอง ย้ำว่า เป็นความจำเป็นสูงสุด ที่ต้องดำเนินการตาม คำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้ ประชาชนได้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด และใช้ฟ้าทะลายโจรเมื่อเป็นหวัด ในกรณีป้องกันหวัดอาจทำได้ในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ใน หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
รายละเอียดข้อบ่งใช้และคำแนะนำติดตามได้จากเฟซบุคแฟนเพจ “สมุนไพรอภัยภูเบศร” https://www.facebook.com/136694259728989/posts/2784156668316055/
ข้อควรปฏิบัติ
กรุงเทพธุรกิจ ประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของ กระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ข้อมูลผู้ป่วย ทางสื่อออนไลน์ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นและเมืองที่มีการระบาดตามคำประกาศของทางการจีน
ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม แนะนำควรสวมหน้ากากอนามัย
หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหลีกเลี่ยง การรับประทานอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี
หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อย่างเคร่งครัด
ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถ เข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อน ให้เพียงพอ
หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอมีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือเว็บไซต์https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php
และ Line@/เพจเฟสบุ๊ค : รู้กันทันโรค เพจเฟสบุ๊ค :กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข