ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563
* pattagarn@gmail.com
ขยะพลาสติก ปัญหาสำคัญของประเทศไทย คือหนึ่งในเหตุผลของการขับเคลื่อนนวัตกรรมผลิตภัณฑ์รักษ์โลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง “ดร.ประชุม คำพุฒ” อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา หัวหน้าหน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ร่วมมือกับบริษัท อริยะสุทธิ อินเตอร์เทรด จำกัด ทำวิจัย กับโครงการที่นำใช้พลาสติกอีวีเอ มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์คอนกรีตน้ำหนักเบา โดยได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการเสริมสร้างงานวิจัยภาคอุตสาหกรรม (SuRF) ในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
บริษัท อริยะสุทธิ อินเตอร์เทรดฯ ทำธุรกิจเกี่ยวกับคอนกรีตบล็อก โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบมวลรวมน้ำหนักเบา ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ หากแต่งานที่ได้ ก็มีผลกำไรต่ำเช่นกัน โดยมีผลกำไรต่อก้อนอยู่ที่ 50 สตางค์- 1 บาทเท่านั้น จึงไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้
“ธวัชชัย อริยะสุทธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อริยะสุทธิ อินเตอร์เทรดฯ บอกว่า เขาจึงร่วมมือทำวิจัยกับ อาจารย์ประชุม คำพุฒ เพื่อสร้างคอนกรีต บล็อกน้ำหนักเบา ที่ใช้วัตถุดิบเหลือใช้ในอุตสาหกรรมอื่นมาเป็นวัตถุดิบ โดยเป้าหมายการคิดค้นพัฒนาครั้งนี้ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ ด้วยการนำเทคโนโลยีเดิมที่บริษัทมีอยู่ มาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม ให้มีมูลค่าสูงขึ้น นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ได้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอบโจทย์ของผู้บริโภคในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
คอนกรีตน้ำหนักเบาที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ มีการนำขยะพลาสติกประเภทอีวีเอที่มีสีขาวล้วน และเป็นของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมรองเท้าฟองน้ำ มาเป็นมวลรวมน้ำหนักเบาทดแทนมวลรวมปกติ และใช้เศษหินฝุ่นจากเหมืองดินขาวมาทดแทนหินฝุ่นจากเหมืองหินปูน ในอัตราส่วนที่เหมาะสม จากนั้นผสมขึ้นรูปเป็นคอนกรีตบล็อกมวลเบาสีขาวที่มีขนาดเท่ากับอิฐมวลเบาในท้องตลาด จนได้เป็นอิฐบล็อกมวลเบาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้นทุนต่ำผ่านเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.58-2533 และสามารถจำหน่ายในเชิงพาณิชย์
การนำพลาสติกอีวีเอมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำคอนกรีตน้ำหนักเบา เพราะพลาสติกอีวีเอ นอกจากจะมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังมีคุณสมบัติเป็นฉนวน ส่งผลให้ตัวคอนกรีตบล็อกมีน้ำหนักลดลง สามารถป้องกันความร้อนและป้องกันเสียงได้ดีขึ้น อีกทั้งมีความคงทนต่อแรงกระแทกมากขึ้น ผลจากการทดสอบการตกจากที่สูงมากกว่า 2 เมตร พบว่า คอนกรีตน้ำหนักเบาจากพลาสติกอีวีเอ ไม่เกิดการแตกหักเหมือนอิฐมวลเบาทั่วไป ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ช่วยลดมูลค่าความเสียหายในระหว่างการขนส่งและการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ดีขึ้น คือ คอนกรีตบล็อกตัวนี้มีความเป็นฉนวนที่ดี คลายความร้อนได้เร็วกว่าอิฐมวลเบาทั่วไป เปรียบเทียบกับอิฐมวลเบาทั่วไปที่ใช้ในการสร้างบ้าน กว่าอิฐจะคลายความร้อนออกหมดก็เกือบ 4 ทุ่ม แต่คอนกรีตบล็อกตัวใหม่นี้ สามารถคลายความร้อนหมดประมาณ 2-3 ทุ่ม ทำให้ห้องเย็นเร็วกว่าและประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย
ผลจากการทำวิจัยร่วมในครั้งนี้ ทำให้บริษัท อริยะสุทธิ อินเตอร์เทรดฯ ได้ผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ ที่สามารถยกระดับเข้าไปแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น อย่างตลาดของอิฐมวลเบาได้ ทั้งยังเพิ่มอัตราส่วนกำไรต่อก้อนจากเดิม 0.5-1 บาทต่อก้อน มาเป็น 8-10 บาทต่อก้อน ที่สำคัญคือยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องการจัดการขยะพลาสติก ซึ่งถือเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมในอีกทางหนึ่ง
ปัจจุบันคอนกรีตบล็อกน้ำหนักเบา เริ่มมีการวางขายในท้องตลาดแล้ว โดยกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ คือ กลุ่มธุรกิจบ้านจัดสรร และ ร้านวัสดุก่อสร้างในจังหวัดปทุมธานี