เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
หลักการของสหกรณ์คือ ร่วมคิด ร่วมผลิต ร่วมทำ เพื่อเป้าหมายหลักคือความยั่งยืน ขนาดของสหกรณ์จะเล็กหรือใหญ่ ไม่สำคัญเท่ากับการร่วมใจ และเมื่อสมาชิกร่วมคิด ร่วมทำธุรกิจสหกรณ์ไปได้ไกล วันนี้สหกรณ์การเกษตรสบปราบ กำลังนำผลผลิตต่อยอดด้วยนวัตกรรมสินค้าเกษตร เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้แก่สมาชิก
น.ส.สมคิด บุญแก้ว ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสบปราบ ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า มีสมาชิกประมาณ 4 พันคน ปัจจุบันสมาชิกสหกรณ์มีเงินฝาก-เงินออมประมาณ 700 ล้านบาท เงินกู้ 350 ล้านบาท เป็นผลจากการร่วมกันคิดร่วมกันทำ โดยแบ่งทำงานตามความถนัด ปลูกข้าว ปลูกผัก ผลไม้ ผลิตแล้วขายกันเอง ขายแม่ค้า บางส่วนมาขายให้กับสหกรณ์ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดตลาดเป็น “ฟาร์เมอร์มาร์เกต” ริมถนนใหญ่ เพื่อรองรับผลผลิตสินค้าเกษตร จำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยว ยอดขายปีที่ผ่านมาประมาณ 2-3 ล้านบาท ซึ่งผลผลิตที่นี่มีคุณภาพ เพราะปลูกจากดินภูเขาไฟ และฟักทองญี่ปุ่นของสบปราบที่อร่อยมาก เร็ว ๆ นี้สหกรณ์เตรียมโปรโมตข้าวกล้องหอมมะลิแดง และพืชผักสวนครัวอินทรีย์ว่าเป็นผลผลิตที่มาจากพื้นที่แอ่งภูเขาไฟ สำหรับข้าวกล้องหอมมะลิแดงของสบปราบผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะมีบริษัทรับไปแปรรูปปรับปรุงคุณภาพเพื่อส่งออกไปแคนาดาและสิงคโปร์
น.ส.สมคิด ย้ำว่า สิ่งที่จะทำต่อไปคือ การพัฒนาพื้นที่ไว้รองรับการท่องเที่ยว เพราะสหกรณ์ได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้งเพราะอยู่ริมถนนพหลโยธินเส้นทางหลักที่จะขึ้นเหนือ เราพยายามสร้างจุดขาย-จุดดึงดูดให้เป็นจุดแวะช้อป ชิม ดื่ม ไว้ต้อนรับประชาชนตลอดทั้งปี โดยสร้างฟาร์เมอร์มาร์เกต ที่ออกแบบให้เหมือนห้างโมเดิร์นเทรด ที่มีความทันสมัยตรงใจกลุ่มนักเดินทางและประชาชนที่ผ่านไปมา เพราะนอกจากจะเข้ามาชอปปิงแล้ว ยังมีร้านกาแฟสด ห้องอาหารติดแอร์ ให้นั่งชิลชิล สบาย ๆ ท่ามกลางวิวภูเขาล้อมรอบ ด้านหลังมีแปลงเกษตร ทั้งผักสวนครัว ผักสลัด มีเลี้ยงแกะม้า ให้คนที่เข้ามาแวะกลับไปพูดกันปากต่อปากว่า ฟาร์เมอร์มาร์เกตของสบปราบ “ของราคาหลักสิบวิวหลักพันล้าน” นอกจากนี้ยังเตรียมลงไม้ดอก เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามา พร้อมให้สมาชิกเตรียมแปลงพืชผักให้สวยงาม เพื่อรับนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน
“ขณะนี้ให้สมาชิกช่วยกันถ่ายรูปแปลง ผัก ผลไม้สวย ๆ ทุ่งข้าวงาม ๆ บรรยากาศดี เพื่อสหกรณ์จะนำมาโปรโมตในเว็บไซต์ และกระจายไปยังนักท่องเที่ยวที่นิยมหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งหากฟาร์เมอร์มาร์เกต ติดตลาด รายได้จะเข้ามายังสมาชิกอย่างต่อเนื่องยั่งยืน
ซึ่งหวังว่าคนไทยจะร่วมกันสนับสนุนและแวะซื้อสินค้า อย่างไรก็ตามสหกรณ์นี้ไม่เน้นปล่อยเงินกู้ แต่เน้นการส่งเสริมอาชีพ ดังนั้นสมาชิกจะแบ่งเป็นกลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มผู้ปลูกผัก กลุ่มผู้ปลูกข้าว กลุ่มผู้แปรรูปสินค้า และฟาร์เมอร์มาร์เกตถือว่าเป็นอนาคตของสหกรณ์ ที่สร้างมาตอบโจทย์คนยุคใหม่” น.ส.สมคิด กล่าว
ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสบปราบ กล่าวอีกว่า นอกจากการจำหน่ายสินค้าทั่วไปของกลุ่มแล้ว สหกรณ์ได้ต่อยอดมูลค่าสินค้า โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยศึกษาวิจัยเพื่อแปรรูปผลผลิตจากสมาชิก ซึ่งสหกรณ์กำลังทดลองผลิตโลชั่นจากมะนาว และสับปะรด ที่สมาชิกปลูกมาก คาดว่าก่อนสิ้นปีน่าจะมีออกมาจำหน่าย เพราะสินค้าเดี๋ยวนี้จะขายดี ขายได้ ต้องมีผลวิจัยรองรับ นอกจากนั้นสหกรณ์ยังมีการแปรรูปผักเชียงดาเป็นสมุนไพรปลอดเชื้อรา และการพัฒนาไอศกรีมจากข้าวกล้องหอมมะลิแดงสบปราบ และข้าวแต๋นเพื่อสุขภาพด้วย และจากการสำรวจพบว่าสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อจากลำปางมากที่สุดคือ ข้าวแต๋นน้ำแตงโม จึงมา คิดว่าจะทำอย่างไรให้เป็นผลผลิตเพื่อสุขภาพจะหวานโดยไม่ต้องใช้น้ำตาลทำอย่างไร กำลังช่วยกันคิด ซึ่งข้าวแต๋นของเราทำจากข้าว กข 6 และข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้องแดงสบปราบ เร็ว ๆ นี้จะได้เห็นผลงานกัน”
ขณะที่ นางทองอิน แก้วปัน เกษตรกรสมาชิกผู้ปลูกผักบ้านสบปราบ เล่าว่า ได้รับการแนะนำจากสหกรณ์ จนผันตัวจากรับจ้างปลูก มาเป็นผู้ปลูกเองเดิมเช่าที่ดินไร่ละ 1,500 บาทต่อปี หลังได้รับการช่วยเหลือจากสหกรณ์ในการจัดซื้อที่ดินแปลงที่ต้องการให้โดยผ่อนชำระ 8 ปี ขณะนี้มีที่ดินเป็นของตนเองและมีรายได้จากการปลูกผักสวนครัวขายไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อวัน เกือบทุกวันจะมีแม่ค้ามารับถึงสวน แต่ต้องแบ่งผักส่วนหนึ่ง เพื่อจัดส่งให้สหกรณ์ ไปทำตลาดด้วยเช่นกัน ผักสวนครัวที่นี่ เน้นทำเกษตรปลอดภัยจะไม่ใช้สารเคมี และใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่เพื่อนสมาชิกสหกรณ์ผลิตและจำหน่าย ผักที่ขายดีและขายได้ตลอดปี คือพริกขี้หนู กะเพรา โหระพา โดยเฉพาะพริกขี้หนู ขายได้ทั้งปี และบางปีราคาแพง ทำให้มีรายได้เพิ่ม ตอนนี้หนี้สินยังมีบ้างเพราะต้องส่งลูกเรียน แต่ไม่เป็นปัญหาสามารถชำระได้ตามรอบเงินกู้ เพราะมีรายได้ทุกวัน ทำให้ชีวิตมีความสุขมากเพราะมีที่ดินเป็นของตนเองแล้ว และจากนี้จะขออยู่และทำงานที่บ้านเกิดไม่ไปไหนอีก ต้องขอบคุณสหกรณ์สบปราบที่มอบความสุขนี้ให้ครอบครัวด้วย.