14 เมษายน ของทุกปี เป็น “วันครอบครัว”
นับตั้งแต่ปี 2532 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของสถาบันครอบครัว และใช้เวลาว่างในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวัน “ปีใหม่ไทย” ทำกิจกรรมร่วมกันเพราะส่วนใหญ่วันนี้เป็นวันที่สมาชิกในครอบครัวกลับมารวมญาติ
แต่ 30 ปี ผ่านไปวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยเริ่มเปลี่ยนแปลง ครอบครัวเริ่มห่างเหินกันมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่โลกโซเชียลเข้ามามีอิทธิพลในทุกเจเนอเรชัน ทำให้เกิด “สังคมก้มหน้า” แถมโลกส่วนตัวสูง ย่อมส่งผลกระทบต่อสัมพันธภาพของครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เนื่องในวันครอบครัว “นิสิตา”เลยถือโอกาสเปิดอกคุยกับน้องๆว่ามีไอเดียในการทำกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์กับครอบครัวอย่างไรเพื่อรักษาความเข็มแข็งของ “สถาบันครอบครัว” ให้คงอยู่คู่สังคมไทยไปตลอดกาล
เริ่มจาก เจน…นฤมล คำพันธ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาธุรกิจการบิน โรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต อาสาเปิดประเด็นว่า “อยากให้ทุกคนมีสติในการใช้เทคโนโลยีอย่าใช้มากจนลืมคนรอบข้าง โดยเฉพาะวันที่ 14 เมษายน วันครอบครัว เราควรหากิจกรรมทำร่วมกัน อย่างเจนและพี่สาวสิ่งที่ทำทุกปีคือต้องกลับบ้านไปรดน้ำดำหัวขอพรจากคุณพ่อ คุณแม่ แต่ปีนี้พิเศษจะพาครอบครัวไปเที่ยวน้ำตกปางสีดา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงใน จ.สระแก้ว เพราะใกล้บ้านและใช้เวลาเดินทางไม่นานการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวจะช่วยรักษาสายใยความรักระหว่างกัน เพราะทุกคนได้พูดคุยกัน หัวเราะด้วยกัน ทานข้าวด้วยกันเป็นความสุขอย่างแท้จริง หากเพื่อนๆคนไหนยังรู้สึกเขินอายที่จะแสดงความรักต่อคนในครอบครัว ให้ถือเอาโอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นแล้วคุณจะรู้ว่าความสุขนั้นอยู่รอบตัวเราไม่ได้อยู่ในโลกโซเชียล”
โอ๊ต…ภูริต กีรติกำจร นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาสัตวศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี รับช่วงสานต่อว่า “ความจริงสังคมออนไลน์ก็เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของครอบครัวเพราะส่วนตัวโอ๊ตใช้ไลน์คุยกับคุณแม่ทั้งบอกเล่าเรื่องราวทั่วไปการเรียนขอคำปรึกษา โดย โทร.ไลน์และวีดิโอคอลทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายค่าโทร.ได้เยอะ แต่สิ่งสำคัญของการใช้สื่อสังคมออนไลน์คือต้องรู้จักเลือกข้อดีมาใช้ให้เกิดประโยชน์เพราะบางกรณีหรือบางสถานการณ์การพบปะพูดคุยกันแบบเห็นหน้าย่อมดีกว่าสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์อย่างในช่วงเทศกาลสงกรานต์โอ๊ตคงจะกลับบ้านไปรดน้ำดำหัวขอพรคุณแม่คุณป้าและผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพและใช้วันครอบครัวไปทำบุญและทำอะไรรับประทานร่วมกัน”
ตามมาด้วย เรย์…เรวดี คงเพชร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการท่องเที่ยวสถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 2 เล่าว่า “ครอบครัวของเรย์ก็พบเจอปัญหาที่คนในครอบครัวไม่คุยกัน ต่างก้มหน้าก้มตาเล่นเกม เล่นโซเชียล บางทีไม่เข้าใจกัน หากไม่พูดคุยก็จะยิ่งทำให้ปัญหาสะสมและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆแต่ครอบครัวเรย์แก้ปัญหาโดยการหาเวลาว่างไปเที่ยวไปทำกิจกรรมร่วมกัน ที่สำคัญคือครอบครัวของเราให้ความรักซึ่งกันและกัน เราใช้สื่อออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ไว้พูดคุยตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไถ่ถามทุกข์สุขกันแต่ต้องไม่เสพติดมากเกินไป เนื่องในโอกาสวันครอบครัวขอฝากถึงทุกคนว่าเราควรใส่ใจคนรอบข้างให้มากขึ้น อย่าปล่อยให้โซเชียลทำลายมิตรภาพระหว่างคุณและครอบครัว อย่างวันครอบครัวในปีนี้เรย์คงใช้เวลาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ พาท่านไปเที่ยวไปทานข้าวด้วยกันก็มีความสุขแล้ว”
สกาย…ทวีวัฒน์ ครองยุทธ นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้ความเห็นว่า “ทุกวันนี้เราจะเห็นภาพผู้คนในที่ต่างๆนั่งอยู่ด้วยกันโดยไม่พูดคุยกันเอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตามองหน้าจอเป็นเรื่องปกติแต่นั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่อยู่ใกล้กันกำลังห่างเหินสถาบันครอบครัวเองก็น่าเป็นห่วงส่วน เรื่องโซเชียลสกายมองว่ามีสองด้านสกายใช้โซเชียลในการสานสัมพันธ์ครอบครัวเพราะเป็นเด็กต่างจังหวัดต้องไกลบ้านไกลครอบครัวนานๆจะมีโอกาสได้กลับไปเจอครอบครัวสักครั้งก็อาศัยโซเชียลพูดคุยปรับทุกข์กับครอบครับทำให้รู้สึกใกล้ชิดกันแม้ตัวจะอยู่ไกลจึงมองว่าโซเชียลเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการช่วยสานสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวแต่ในโอกาสวันครอบครัวการได้กลับบ้านไปทำบุญร่วมกัน รดน้ำดำหัวขอพรพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ ได้ทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นการสานสัมพันธ์ที่มีความสุขที่สุดแล้ว”
ปิดท้ายด้วย วุ้นหวาน…ณิชารีย์ สวนานนท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สำนักวิชาการจัดการ สาขาวิชาการบัญชี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ยิ้มหวานก่อนบอกว่า “ปกติที่บ้านจะชอบทำกิจกรรมร่วมกันเสมอ อย่างไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือไปออกกำลังกายกัน เพราะที่บ้านชอบทำกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์ อย่างปีนหน้าผาจำลอง ดำน้ำ และที่ทำด้วยกันบ่อยๆคือปั่นจักรยาน บ้านอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เขาทำเส้นทางปั่นจักรยานแบบมีมาตรฐาน ให้คนทั่วไปเข้าไปใช้ตอนเย็นก็จะไปปั่นกับคุณพ่อคุณแม่และน้องชาย ส่วนตัวคิดว่านอกจากได้สุขภาพที่ดีแล้ว การใช้เวลาร่วมกันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้คนในครอบครัวทำให้เราสนิทกันมากขึ้นมีอะไรก็พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ทำให้บ้านอบอุ่น วันครอบครัวปีนี้การได้กลับบ้านไปใช้เวลาในช่วงสงกรานต์ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวก็มีความสุขแล้ว”
ฟังความเห็นของตัวแทนน้องๆวัยจี๊ดแล้วทำให้ “นิสิตา” เบาใจว่าอย่างน้อยความสำคัญและความอบอุ่นของครอบครัวในสังคมไทยยังคงมีความเข็มแข็งอยู่ไม่ใช่น้อย
แต่ฝากเตือนไว้นิดอย่าคิดจะสานสัมพันธ์เฉพาะวันครอบครัวเท่านั้น
แต่ขอให้เป็นทุกวันที่มีโอกาส!!!