คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
อลงกรณ์ รัตตะเวทิน : มทร.ธัญบุรี
“นี่เป็นก้าวแรกและก้าวใหญ่ของผมที่จะได้รับสิทธิ์สู่การเป็นนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย” เสียงที่หนักแน่นของหนุ่มนักกีฬากล้ามล่ำ วัย 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรต่อเนื่อง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ศักรินทร์ แขวงกรุง หรือ มอส แชมป์สมัยที่ 2 กีฬาเพาะกายและฟิตเนสรุ่น แอธเลติกฟิสิกส์ชาย ความสูงไม่เกิน 175 ซม.
พื้นเพ มอส เป็นคน จ.ลพบุรี พ่อกับแม่ แยกทางกันตั้งแต่เขาเรียน ม.ต้น โรงเรียนวินิตศึกษาในพระราชูปถัมภ์ จ.ลพบุรี ด้วยสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวทำให้เปลี่ยนที่เรียนบ่อยครั้ง จากวิทยาลัยเทคนิค ลพบุรีสู่วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ จ.นครราชสีมา กระทั่งจบ ปวช.วิทยาลัยเทคโนโลยีละโว้ จ.ลพบุรี และเรียนต่อ ปวส. ที่วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี
สมัย ปวส. มอส “ผอมแห้งแรงน้อย” น้ำหนักแค่ 42 กก. สูง 170 ซม. ซึ่งถือว่าผอมมาก โดนเพื่อนในกลุ่มแกล้งอยู่เสมอ เป็นแรงผลักดันให้เขาทุ่มเทเวลาไปกับกีฬาเพาะกาย เริ่มต้นจากการเล่นในกลุ่มเพื่อนและเข้าชมรมเพาะกายและฟิตเนสของมหาวิทยาลัย “RMUTT Fitness Club” อย่างเต็มตัว ฝึกซ้อมต่อเนื่องตั้งแต่เรียนปี 1 ด้วยความมุ่งหวังที่จะเป็นนักกีฬาอาชีพ
เขาบอกว่ากีฬาเพาะกายและฟิตเนสมีระดับการแข่งขันที่ต่างกันไป มีดีเทลมากมาย เช่น ในรุ่นโอเดล-จะเน้นร่างกาย หน้าตาและท่าทาง รุ่นแอธเลติก-จะเน้นความสมส่วน ส่วนเพาะกายจะเน้นความใหญ่แข็งแรงและความดุดันของกล้ามเนื้อ ซึ่งต้องเรียนรู้ขั้นพื้นฐานเรื่อยไปจนถึงขั้นสูง ต้องรู้กล้ามเนื้อและบอดี้แต่ละส่วน โดยเฉพาะการทำงานเพื่อจะได้สร้างและพัฒนากล้ามเนื้อให้ชัดเจน แสดงกล้ามเนื้อได้อย่างถูกต้อง ใช้งานได้อย่างเต็มที่และลดอาการบาดเจ็บ
ความท้าทายของกีฬาประเภทนี้คือการควบคุมตัวเองทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ตั้งแต่การเตรียมตัว การแข่งขันบนเวทีและการดูแลตัวเองหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ล่าสุด มอส แข่งกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 46 ราชภัฏอุบลราชธานีเกมส์ จ.อุบลราชธานี ต้องเตรียมร่างกายให้น้ำในร่างกายน้อยที่สุดภายใต้การดูแลของโค้ชโดยใช้เทคนิคการควบคุมน้ำและโซเดียม และต้องควบคุมอาหาร บางมื้อก็ต้องจัดเตรียมและปรุงอาหารด้วยตัวเอง ทำให้ผิวหนังต้องบาง เพื่อตอนแข่งขันกล้ามเนื้อจะได้ชัดเจน
“สิ่งสำคัญที่สุดคือจิตใจ ถ้าใจเราพร้อม เราก็จะทำได้” ผมว่านี่เป็นพื้นฐานที่นักกีฬาทุกคนเห็นตรงกัน
หลังเวทีเพาะกายนักกีฬาทุกคนต้องเปลี่ยนสีผิวเดิมเป็นผิวสีแทน เพื่อเสริมมิติให้กล้ามเนื้อและบอดี้ในแต่ละส่วน สำหรับโชว์กล้ามเนื้อเรียกคะแนนจากคณะกรรมการ และหลายคนเลือกกำจัดขนเกือบทุกส่วนของร่างกาย เพื่อความสวยงามและความสะดวกในการลงสี ไม่เพียงเท่านั้นหลังจบการแข่งขันต้องล้างสีออกทั้งหมดกลับสู่สภาพเดิม ดังนั้นการมีโค้ช ผู้ช่วยโค้ชหรือผู้ดูแล จะทำให้เราแข่งขันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งศึกษาค้นคว้าและอย่าหยุดเรียนรู้กีฬาเพาะกายโดยเฉพาะวิทยาการใหม่ๆ ของต่างประเทศ
มอส เพิ่งจะคว้าแชมป์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสรุ่นแอธเลติกฟิสิกส์ชาย ความสูง ไม่เกิน 175 ซม. มาครองเป็นสมัยที่ 2 ในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ทำให้ได้รับสิทธิ์เข้ารับการคัดตัวเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยชุดปี 2019 เพื่อเป็นตัวแทนนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทยไปแข่งขันเซาท์อีสต์เอเชีย ที่นครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ในกลางปีนี้ และถือเป็นเป้าหมายสำคัญของ มอสที่วางไว้
“ผมอยากรับใช้ชาติสักครั้งในชีวิตด้วยการเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย อยากทำ ให้ธงชาติไทยโบกสะบัดปลิวไสว ให้ผู้คนเห็น ถึงความสามารถของคนไทย” ขณะเดียวกันยังวางแผนที่จะทำธุรกิจด้านสุขภาพ เป็นเทรนเนอร์และโค้ชพิเศษให้ผู้สนใจในกีฬาเพาะกาย และการออกกำลังกายควบคู่กันไป
ไอดอลหรือต้นแบบนักเพาะกายที่ชื่นชอบคือ Breon Ansley ซึ่งเป็น Professional Bodybuilder ระดับโลก ที่มีความเป็นตัวตนที่แสดงออกมา จะทำให้เกิดความแตกต่าง น่าจดจำ ซึ่ง Breon Ansley มีครบถ้วน
“การออกกำลัง กาย คือยาแห่งความ หนุ่มความสาว” ถือเป็นเคล็ดลับสุขภาพดีของมอส ที่เป็นการกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และจะต้องกินอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ได้สารอาหารครบ รวมทั้งพักผ่อนอย่างเต็มที่ “นี่คือเรื่อง พื้นฐานที่ง่ายที่สุด แต่เชื่อว่ามีบางคนเท่านั้นที่สามารถทำได้” มอสอธิบาย
หลายอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความบังเอิญ แต่เป็นส่วนผสมของความตั้งใจ ความอดทน และความมีวินัยอย่างเคร่งครัด ภายใต้การควบคุมของโค้ช สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยลืมคือ “เสียงเชียร์และกำลังใจ” แม้จะเหนื่อยและกดดันเพียงใด เวลาแข่งขันบนเวทีแค่ได้ยินเสียงปรบมือก็เป็นแรงผลักดันให้ร่างกายและหัวใจสูบฉีดเพื่อไปต่อได้เสมอ กีฬานี้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตผมหลายด้านจริงๆ
“ขอบคุณประสบการณ์ดีๆ ขอบคุณมหาวิทยาลัยที่คอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ และขอบคุณเสียงปรบมือที่ผ่านมาทั้งหมด” มอส บอกว่าจากนี้ต่อไป “ต้องซ้อมหนักมากษ ทุ่มเททั้งกายและใจเพื่อพัฒนาตัวเองให้ไปถึงเส้นทางทีมชาติไทยให้ดีที่สุด”