• บุคลากร
  • ศิษย์เก่า
  • ห้องสมุด
  • คณะ / หน่วยงาน
  • การประชาสัมพันธ์
  • บริการสังคม
  • ITA
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
  • RMUTT VR Tour
Logo RMUTTLogo RMUTTLogo RMUTTLogo RMUTT
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
    • ประวัติความเป็นมา
    • นโยบายและแผนยุทธศาสตร์
    • สัญลักษณ์
    • หอพระพุทธพิริยมงคล
    • โครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ
    • ทำเนียบผู้บริหาร
      • ทำเนียบผู้บริหารปี 2567 – ปัจจุบัน
      • ทำเนียบผู้บริหารปี 2563 – 2566
    • สภามหาวิทยาลัย
    • สภาคณาจารย์และข้าราชการ
    • ลงนามความร่วมมือ (MOU)
  • เรียนออนไลน์
  • นักศึกษา
  • ศึกษาต่อ
  • วิจัย
  • บริการ
  • Download
  • บริการ E-Mail / Wifi
    • บริการระบบ RMUTT Internet Account
    • ลงทะเบียน/Reset Password E-mail
    • อาจารย์และบุคลากร
    • นักศึกษา
    • โรงเรียนสาธิตนวัตกรรมฯ
  • ITA
    • ITA 2568
    • แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน (IIT) ปี 2568
    • แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน (EIT) ปี 2568
    • กิจกรรม ITA 2568
    • ITA 2562-2567
✕

แหล่งบ่มเพาะ “นวัตกร-วิศวกร”

  • Home
  • ข่าวจากสื่อ ข่าวหนังสือพิมพ์
  • แหล่งบ่มเพาะ “นวัตกร-วิศวกร”
คอลัมน์ เดลินิวส์วาไรตี้: ศิลปะมงคล..’โพสพาญชลี’ ขวัญแห่งชาวนา..ศรัทธาแห่งไทย
18 ธันวาคม 2018
ภาพข่าว: มอบทุน
18 ธันวาคม 2018
Published by วิลาสินี น้อยใหม่ on 18 ธันวาคม 2018
Categories
  • ข่าวหนังสือพิมพ์
Tags
  • Fab Lab-Fabrication Lab
  • โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม

ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2561
ทีมข่าววิทยาศาสตร์

วท.ผนึกพลัง 150 สถานศึกษา ตั้ง “โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม”
โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม หรือ Fab Lab-Fabrication Lab
แหล่งบ่มเพาะ “นวัตกร” และ “วิศวกร” เพื่อรองรับอนาคตประเทศไทย ที่ตั้งเป้าว่าภายในปี 2565 จะเพิ่มจำนวนนวัตกรและวิศวกรให้เป็น 25 คนต่อประชากร 10,000 คน จากปัจจุบันที่มีเพียง 13 คน เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการการพัฒนาประเทศบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ได้อย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ ผลการสำรวจ “ภาพรวมตลาดแรงงานไทยปี 2557” พบว่า วิศวกรเป็นหนึ่งในสาขาอาชีพในประเทศไทย ที่มีจำนวนผู้สมัครไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งสายงานวิศวกรนี้มีความต้องการจ้างงานสูงเป็นอันดับหนึ่ง คือ ร้อยละ 17.1 แต่จำนวนผู้สมัครมีเพียงร้อยละ 6.6 เท่านั้น โดยวิศวกรที่ประเทศไทยขาดแคลนอย่างหนักคือ วิศวกรวิจัย วิศวกรออกแบบและวิศวกรปฏิบัติ/นวัตกร
การสร้าง “นวัตกร” และ “วิศวกร” ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ จึงเป็นความจำเป็นอย่างเร่งด่วน
ที่สำคัญการพัฒนาบุคลากร วทน. ซึ่งรวมถึงนวัตกรและวิศวกรจำเป็นต้องเริ่มบ่มเพาะตั้งแต่ระดับประถมถึงมัธยมศึกษา เพราะนักเรียนยังมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการมาก ขณะเดียวกันต้องนำแนวคิดสะเต็ม (STEM) ซึ่งรวมเอา4สาขาวิชาเข้าด้วยกันได้แก่วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) มาใช้ในการสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจตลอดจนพัฒนาความสามารถในการประยุกต์ใช้ศาสตร์เหล่านี้ในการแก้ปัญหาจริงผ่านการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เนื่องจากการเรียนรู้แบบสะเต็มมุ่งเน้นการปฏิบัติและการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ โดยโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในลักษณะนี้ คือ โรงประลองทางวิศวกรรมหรือ Fab Lab
“โรงประลองทางวิศวกรรมที่จะเป็นสถานที่ฝึกการเรียนรู้ ทดลองและลงมือสร้างชิ้นงานต่างๆ ทั้งสร้างหุ่นยนต์ โดรนสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ฯลฯ และนวัตกรรมในรูปแบบใหม่จะจัดตั้งใน 150 สถานศึกษาทั้งระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษาทั่วประเทศโดยล่าสุดไปเปิดโรงประลองฯ ที่วิทยาลัยเทคนิคหนองบัวลำภูก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา และทั้ง 150 สถานศึกษาจะต้องสร้างนวัตกรและวิศวกรให้ได้ 15,000 คน และจะต้องได้ชิ้นงานที่ใช้งานได้จริง 150 ชิ้นงาน และชิ้นงานที่ส่งประกวดในระดับภูมิภาค ระดับชาติและนานาชาติ 300 ชิ้นงานที่สำคัญ เด็กและเยาวชนที่อยู่ในโรงประลองต้นแบบฯ จะต้องเรียนต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์อย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะโลกในปัจจุบันและอนาคต จะเป็นโลกที่นวัตกรรมและเทคโน-โลยีเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปรวดเร็วมากการจะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องเริ่มที่คนต้องมีความคิดสร้างสรรค์ต้องรู้จักหาความรู้ใหม่ๆที่สำคัญต้องลงมือทำ” ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ผู้ริเริ่มการตั้งโรงประลองต้นแบบฯระบุถึงเหตุผลในการก่อตั้งที่มอบ ให้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดำเนินการด้วยงบประมาณ 189.5 ล้านบาท เพื่อทำให้เด็กไทยยุคนี้ ต้องมีความคิดความอ่านด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและมีทักษะ
สำหรับโรงประลองฯ สวทช.จะจัดหาอุปกรณ์พื้นฐานในการออกแบบชิ้นงาน ที่นักเรียนสามารถจินตนาการและจัดทำชิ้นงานในรูปแบบ 3 มิติ คือ 3D printer ที่รองรับโปรแกรมออกแบบที่เป็น open source อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ เช่น กล้องจุลทรรศน์ เครื่องวัดแสง เครื่องมือพื้นฐานทางวิศวกรรม รวมทั้งเครื่องตัดแบบ laser และบอร์ดสมองกลฝังตัวและอุปกรณ์ตรวจวัด หรือ sensor ให้สถานศึกษาของรัฐที่เป็นโรงเรียนมัธยมะศึกษา วิทยาลัยเทคนิคและวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ และจัตุรัสวิทยาศาสตร์ภูมิภาคที่เข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 150 แห่ง โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มโรงเรียนที่มีความสนใจ หมายถึงมีคะแนนเฉลี่ยโอเน็ต ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ 2.โรงเรียนที่มีความพร้อม 3.วิทยาลัยเทคนิค/อาชีวศึกษาฐานวิทยาศาสตร์ และ 4.จัตุรัสวิทยาศาสตร์ภูมิภาค
และทั้ง 150 โรงเรียนจะมี 10 มหาวิทยาลัย ได้แก่ ธรรมศาสตร์, เชียงใหม่, สงขลานครินทร์, บูรพา, พระจอมเกล้าลาดกระบัง, พระจอมเกล้าพระนครเหนือ, พระจอมเกล้าธนบุรี, ราชมงคลกรุงเทพ, ราชมงคลล้านนาฯ, ราชมงคลธัญบุรี และจะมีการสร้างรูปแบบการทำงานร่วมกันระหว่าง สวทช.มหาวิทยาลัย วิทยาลัยเทคนิค โรงเรียน ให้มีการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ประสบการณ์เพื่อขยายผลสู่การเป็นประเทศแห่งนวัตกรในอนาคต
“จากการประเมินผลสถานศึกษาในโครงการฯ อาทิ วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี พิษณุโลก หนองบัวลำภู เป็นต้น พบว่า มีผลงานการสร้างชิ้นงานที่น่าพอใจ เด็กมีความคิดสร้างสรรค์เยอะมากเพียงแต่ขาดเครื่องมือในการแปลงความคิดสร้างสรรค์ออกมากลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม ปัจจุบันมีโรงเรียนอาชีวะร่วมโครงการ 50 แห่ง ซึ่งอนาคตจะขยายเป็น 400 แห่ง” ดร.สุวิทย์ กล่าว
“ทีมข่าววิทยาศาสตร์” มองว่า โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม น่าจะเป็นคำตอบในส่วนของแหล่งบ่มเพาะชั้นดี สำหรับผลิตวิศวกร และนวัตกรคุณภาพ เพื่อรองรับประเทศไทย 4.0 ในอนาคตอันไม่ไกล
แต่ที่เราอดห่วงไม่ได้และอยากฝากไว้คือการผนึกพลังจากหลายภาคส่วนไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำคัญคือความต่อเนื่อง จริงจัง โดยเฉพาะการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย
คงน่าเสียดาย หากโครงการดีๆที่เริ่มต้นแล้วต้องเกิดอาการสะดุด หรือหยุดชะงักกลายเป็นฝันกลางฤดูฝน.

Share
0
วิลาสินี น้อยใหม่
วิลาสินี น้อยใหม่

Related posts

28 พฤษภาคม 2025

เทคโนโลยีล้ำสมัยและโลกที่ก้าวไกลไปกับ “COMTODAY”


Read more
29 เมษายน 2025

“เปิดประตูสู่มิติใหม่กับการใส่ใจมิติสุขภาพ”


Read more
26 มีนาคม 2025

“มรดกไทย” และสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นความ “ธรรมดา”


Read more
11 กุมภาพันธ์ 2025

“Total Sound Magazine” บทเพลงและเสียงนี้ที่มีมากกว่า “ความหมาย”


Read more

Comments are closed.

สร้างและพัฒนาโดย.ฝ่ายพัฒนาและเผยแพร่เว็บไซต์ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

Rajamangala University of Technology Thanyaburi
ที่อยู่ : 39 หมู่ที่ 1 ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120

ติดต่อเรา

สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน :
     Facebook :@oregrmutt
     Website :www.oreg.rmutt.ac.th
     E-mail : oreg@rmutt.ac.th

กองประชาสัมพันธ์ :
     E-mail : rmutt_news@rmutt.ac.th

ฝ่ายพัฒนาและเผยแพร่เว็บไซต์ :
     Facebook :@WeblogRMUTT

  • กองบริหารงานบุคคล มทร.ธัญบุรี จัดโครงการพัฒนาบุคลากรใหม่ สายวิชาการ9 มิถุนายน 2025
  • ขอแสดงความยินดีกับ “ผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน” เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มทร.ธัญบุรี8 มิถุนายน 2025
  • ขอแสดงความยินดีกับ “พลเอก ธงชัย เกื้อสกล” เป็นนายกสภา มทร.ธัญบุรี8 มิถุนายน 2025
  • ขอแสดงความยินดีกับ “รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด” เป็นอธิการบดี มทร.ธัญบุรี ต่อไปอีกวาระหนึ่ง8 มิถุนายน 2025

แผนที่การเดินทางมา มหาวิทยาลัยฯ

Copyright © 2022 Rajamangala University of Technology Thanyaburi
  • บุคลากร
  • ศิษย์เก่า
  • ห้องสมุด
  • คณะ / หน่วยงาน
  • การประชาสัมพันธ์
  • บริการสังคม
  • ITA
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
  • RMUTT VR Tour