“หมออุดม” ชี้ทางออกยื่นทรัพย์สิน ป.ป.ช. ให้มีผลบังคับใช้กับบอร์ดชุดใหม่
จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีประกาศให้นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่หลังเกิดปัญหา ป.ป.ช.มีมติให้ขยายเวลาออกไปอีก 60 วัน นับจากวันที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค.2561 นั้น เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2561 ศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า
ตนได้หารือกับหลายฝ่าย ทั้ง ป.ป.ช.และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ และจากที่ตนได้รับฟังความคิดเห็นของกรรมการสภาฯ ที่จะลาออกจากตำแหน่ง พบว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าวในเรื่องการตรวจสอบ ความโปร่งใส เพียงแต่รู้สึกยุ่งยาก และมีความเสี่ยง หากยื่นทรัพย์สินไม่ครบถ้วนหรือตกหล่นก็ถือว่าเป็นความผิดทางอาญา อีกทั้งหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัยไม่ได้มีอำนาจในเรื่องการจัดการเงินของมหาวิทยาลัย ทำได้เพียงเห็นชอบตามที่ฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยเสนอเท่านั้น
“มีกรรมการสภาฯ หลายคนบอกกับผมว่า ถูกภรรยาสั่งให้ลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่ต้องการยื่นทรัพย์สิน เนื่องจากภรรยาบางท่านมีการสะสมเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆไว้ จึงไม่ต้องการที่จะเปิดเผย ซึ่งผมก็เข้าใจ ป.ป.ช. ว่า เมื่อมีการประกาศออกมาเป็นกฎหมายแล้ว การที่จะดำเนินการอะไรก็ทำได้ยาก แต่ผมก็มองว่าไม่ยุติธรรมกับผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน หากต้องมีบังคับใช้กฎหมายขณะที่เขากำลังดำรงตำแหน่งอยู่ จึงอยากเสนอให้คนที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันไม่ควรที่จะบังคับใช้กฎหมายนี้ ให้ดำรงตำแหน่งครบวาระก่อน แต่ให้บังคับใช้กับผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ เพื่อที่จะให้มีการเตรียมตัวหากใครไม่พอใจที่จะยื่นก็ไม่ต้องเข้ามาในตำแหน่งนี้ ซึ่งผมคิดว่าจะเป็นทางออกที่นุ่มนวลที่สุดแต่อยู่ที่ป.ป.ช.จะรับพิจารณาหรือไม่” รมช.ศธ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการดำเนินการดังกล่าวเกิดผลกระทบในวงกว้างจะมีการเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจมาตรา 44 เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้หรือไม่ นพ.อุดมกล่าวต่อว่า ส่วนตัวตนคิดว่าการใช้มาตรา 44 เพื่อยกเว้นไม่ให้นายกสภาฯ และกรรมการสภาฯ ไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน อาจจะไม่ค่อยเหมาะสม แต่หากจะเป็นการออกมาตรา 44 เพื่อ ไม่บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ขณะนี้ตนคิดว่าสมเหตุ
ด้าน รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวว่า ในมุมมองของตนเห็นว่าควรมีการยืดหยุ่นการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายกและกรรมการสภามหาวิทยาลัยไปก่อนเพราะสภามหาวิทยาลัยไม่เหมือนกับบอร์ดรัฐวิสาหกิจทั่วไป แต่เป็นผู้เสียสละไม่มีอำนาจในการบริหารหรือตัดสินใจ ทำหน้าที่แค่อนุมัติหลักสูตร อนุมัติผู้สำเร็จการศึกษา อีกทั้งควรได้รับการยกเว้นไม่ให้คู่สมรสต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน หรือยื่นไม่เปิดเผยต่อสังคม อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการผ่าวิกฤติที่เกิดขึ้น รัฐบาลควรยืดเวลาออกไป 2 ปี เปิดโอกาสให้คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยชุดเก่าหมดวาระลงก่อน แล้วค่อยใช้กับสภามหาวิทยาลัยชุดใหม่