ดอกเบี้ยธุรกิจ ฉบับวันที่ 09 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ผนึกความร่วมมืออครั้งสำคัญแบบไตรภาคีกับสมาคมการพัฒนาการขายตรงไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จัดทำโครงการวิจัยเพื่อจัดทำจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพธุรกิจค้าปลีก สาขาธุรกิจขายตรงและจัดเสวนา “สมรรถนะขายตรงไทยยุคใหม่”
นายนพดล ปิยตระภูมิ รองผู้อำนวยการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หรือ สคช. เปิดเผยว่า สคช.ร่วมกับ สมาคมการพัฒนาการขายตรงไทย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จัดทำโครงการวิจัยเพื่อจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจค้าปลีก สาขาธุรกิจขายตรง สำหรับการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีในครั้งนี้ได้ริเริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการตอบสนองต่อแผนยกระดับวิชาชีพขายตรง คุณธรรม จริยธรรมของผู้ประกอบอาชีพ รายละเอียด กระบวนการประเมินสมรรถนะอาชีพระดับต่างๆ จากนั้น จะมีการทำประชาพิเคราะห์เพื่อรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อให้มาตรฐานอาชีพนี้มีความถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ และมีความเป็นสากลต่อไป
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ประกอบการอาชีพขายตรงกว่า 1.2 ล้านคน มีการขายสินค้าในตลาดอิเล็กทรอนิคส์มากยิ่งขึ้น การปฏิบัติที่ดีถูกต้อง เชื่อถือได้ และมีความเป็นสากล จึงมีความสำคัญที่ผู้ประกอบอาชีพนี้จะต้องมีจรรยาบรรณ ขณะที่ความร่วมมือ 3 ฝ่ายในครั้งนี้ ได้มีการเทียบเคียงมาตรฐานอาชีพนี้กับต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา สวีเดน และสิงคโปร์ ให้มีความเป็นสากลตามมาตรฐานทั่วโลก
พร้อมกันนี้ยังได้จัดเสวนา “สมรรถนะขายตรงไทยยุคใหม่” โดยได้รับความร่วมมือจาก นายกสมาคมพัฒนาขายตรงไทย นายกสมาคมค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อธุรกิจท่องเที่ยว และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมเสวนาภาพรวมธุรกิจขายตรง อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทีจะนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพให้แก่อาชีพขายตรงได้ต่อไป
“การจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความสนใจและได้รับความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงจำนวนมาก มีการกำหนดชื่ออาชีพอันเป็นสากลเป็นที่ยอมรับในวงการขายตรง ทุกระดับชั้นอาชีพพ ได้แก่ ผู้จำหน่ายอิสระ นักธุรกิจอิสระ ตัวแทนขายตรง ก่อให้เกิดการยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพในการทำงาน โดยกรอบการพัฒนาอาชีพธุรกิจขายตรง ประกอบด้วยอาชีพ ดังนี้ อาชีพผู้สนับสนุนงานขาย อาชีพนักขาย อาชีพผู้ประกอบการ และอาชีพวิทากรผู้จำหน่ายอิสระซึ่งจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในวิชาชีพของตนและความเชื่อถือของลูกค้า เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่ออาชีพ อันเป็นการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ”