ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ผู้จัดการรายวัน360 – นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น หรือ (MQDC) กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังว่า สิ่งที่ต้องเฝ้าติดตามคือเรื่องสถานการณ์ตลาดแรงงาน เนื่องจากจะมีโครงการภาคเอกชนและโครงการภาครัฐที่จะมีการลงทุนและพัฒนาเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของ MQDC คงต้องพิจารณาสภาวะตลาด โดยในครึ่งปีแรก ได้เปิดตัวโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บนถนนบางนา-ตราด กม.5 มูลค่าโครงการ 90,000 ล้านบาท พัฒนาภายใต้รูปแบบมิกซ์ยูส บนเนื้อที่โครงการ 300 ไร่ ขณะที่ในครึ่งปีหลังจะมีการเปิดอีกอย่างน้อย 5 โครงการ
“เรามีที่ดินหมดแล้ว แต่การจะเปิดทั้งหมดหรือเลื่อนไปเปิดปีหน้า ต้องดูสภาพตลาดก่อน ซึ่งตามแผนงานแล้วปีนี้ต้องเปิด 10 โครงการ แต่คิดว่าจำนวนโครงการอาจมีการปรับเปลี่ยน แต่หากในแง่มูลค่าโครงการวมแล้ว เกินเป้าที่วางไว้ทั้งปีแสนกว่าล้านบาท ส่วนโครงการที่เยาวราชและที่พัทยาจะทันในปีนี้หรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะทันหรือไม่” นายวิสิษฐ์ กล่าว
สำหรับแผนงานในเรื่องการเสริมสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีนั้น ทาง MQDC ให้ความสำคัญมาโดยตลอด เนื่องจากจะมีส่วนเชื่อมโยงชีวิตและไลฟ์สไตล์ให้เป็นหนึ่ง เดียวกัน ซึ่งท่ามกลางความเจริญด้านวัตถุ ได้ส่งสัญญาณถึงปัญหาและส่งผลกระทบต่อโลก ทั้งนี้ บริษัทมีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ล่าสุดบริษัทจึงได้ร่วมมือกับ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) เตรียมพัฒนาวัสดุก่อสร้างจากพลาสติกใช้แล้วเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนอสังหาริมทรัพย์ โดยได้รับความ ร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ ศูนย์วิจัย และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน หรือศูนย์ RISC ในการพัฒนาวัสดุก่อสร้างจากพลาสติก ใช้แล้วเพื่อนำมาใช้ภายในโครงการใหม่ของบริษัททั้งหมด โดยนำร่องโครงการ เดอะ ฟอเรส เทียส์
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะหาวิธีการใหม่ๆ ที่สามารถใช้วัดสุแปรรูปจากพลาสติก ใช้แล้ว รวมไปถึงเศษวัสดุต่างๆ จากทะเลนำกลับมาใช้ใหม่และสร้างเป็นผลงานอีกครั้ง
สำหรับนวัตกรรมที่จะนำมาพัฒนาเป็นวัสดุก่อสร้างจากพลาสติกใช้แล้ว คือ นวัตกรรม Upcycled ซึ่งจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาพลาสติกเหลือทิ้ง โดยนำขยะมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยทำให้เป็นวัสดุใหม่ๆ ที่ไม่สร้างขยะกลับคืนสู่วงจรขยะพลาสติกอีกครั้ง ทั้งนี้ กลยุทธ์การจัดการขยะพลาสติกที่สอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทด้วยการพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดี อย่างไรก็ตาม จากการร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการช่วยปลุกกระแสให้มีการนำวัสดุใหม่นี้มาใช้ในรูปแบบต่างๆ อย่างแพร่หลาย
“แนวทางของเรา จะนำมาใช้กับแลนด์สเคปโครงการภายนอก ส่วนในอนาคตจะไปใช้กับระบบฝ้าเพดานได้หรือไม่ คงต้องมาดูผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัย เช่น การระเหยที่จะเกิดขึ้น เป็นต้น”.