กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561
กรุงเทพธุรกิจ ประเทศไทยมีการ ดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านคมนาคม การขนส่ง ปัจจุบันมีการก่อสร้างระบบราง การขนส่งทางราง ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้มีแผนด้านคมนาคมขนส่ง เร่งด่วน 44 โครงการ งบกว่า 2 ล้านล้านบาท ขณะที่ส่วนของอุดมศึกษา หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง อย่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ(สวทน.) ได้ประมาณการความต้องการกำลังคนรวม 31,307 คน โดยจำนวนนี้มีความต้องการกำลังคน ระดับช่างเทคนิค 11,479 คน และระดับวิศวกร 5,740 คน เพื่อรองรับพัฒนาและขยายระบบขนส่งทางรางของไทย
เร่งผลิตคนรับอุตฯระบบราง
ดิสพล ผดุงกุล นายกสมาคม วิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย (วศรท.) กล่าวว่า วศรท.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดทำหลักสูตรพัฒนาครูช่าง เพื่อนำความรู้ถ่ายทอดสู่บุคลากรสายช่าง ให้นักเรียนนักศึกษามีความรู้ และตรงกับความต้องการตลาด มุ่งพัฒนาบุคลากรด้านระบบรางจำนวนมาก โดยเฉพาะระดับอาชีวศึกษา ทั้งช่าง ซ่อมบำรุง ช่างไฟฟ้า เครื่องกล โยธา พนักงานบริการในสถานี พนักงานขายตั๋ว พนักงานต้อนรับ พนักงานดูแลชานชาลา ซึ่งขณะนี้ มีการอบรมไปแล้ว 1 รุ่น รวมถึงได้สนับสนุน อบรมการเรียนการสอนร่วมกับอุดมศึกษา
ทั้งนี้ภาคเอกชนไทย สถานประกอบการของไทย สวทน. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มหาวิทยาลัย และหน่วยงานเกี่ยวกับระบบราง ได้มีแนวทางในการพัฒนาด้านต่างๆ มีศักยภาพและทำได้อยู่แล้ว หากได้รับการสนับสนุน ลงทุนจากภาครัฐว่าอุตสาหกรรมระบบราง ทั้งผลิตอะไหล่ ชิ้นส่วนต่างๆ ก็สามารถดำเนินการได้
หลักสูตรพรีเมียม’ขนส่งทางราง’
ขณะนี้หลักสูตรอาชีวะพรีเมียม สาขาระบบขนส่งทางราง มีหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เรียน 3 ปี เปิดสอนใน 4 วิทยาลัย ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพบ้านไผ่ วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี วิทยาลัยเทคนิควาปีปทุม โดยร่วมกับกลุ่มวิทยาลัยคู่ความร่วมมือจากจีน ได้แก่ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาการรถไฟหวู่ฮั่น วิทยาลัยและอาชีวศึกษาการรถไฟเทียนจิน วิทยาลัยเทคนิคการรถไฟความเร็วสูงหูหนาน และวิทยาลัยการคมนาคมขนส่งสาธารณฉงชิ่ง นอกจากสายช่างเทคนิค วิศวกร ที่มีความรู้ ทั้งด้านระบบราง และการซ่อมบำรุงต่างๆ แล้ว ในระบบขนส่งทางราง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องยังขาดแคลนบุคลากรอีกมากเช่นเดียวกัน
‘เทคนิคชลบุรี’ทุ่มงบ59ล้าน
วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี เป็น 1 ใน 4 วิทยาลัยที่นำร่องหลักสูตรอาชีวะพรีเมียม สาขาวิชาระบบขนส่งทางราง ใช้เวลาเรียน 3 ปีโดยเรียนในประเทศไทย 2 ปีและอีก 1 ปีเรียนและฝึกทักษะวิชาชีพที่ประเทศจีน โดยในปีการศึกษา 2561 เปิดรับนักศึกษาระดับปวส.1 ในสาขางานอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (Signaling and Telecommunication) จำนวน 40 คนขณะนี้รับนักศึกษาแล้ว 25 คน ส่วนที่เหลือกำลังเปิดรับสมัครเพิ่มเติม โดยผู้สมัคร ต้องจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปีที่ 3 ในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น ไฟฟ้า และ ผู้ที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เกรดเฉลี่ย 2.75 ขึ้นไป
ปริวัฒน์ ถานิสโร ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี กล่าวว่าวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากกลุ่มจังหวัดจำนวน 59 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ เพื่อใช้การจัดการเรียนการสอนที่ทันสมัย มีการพัฒนาบุคลากรโดยส่งอาจารย์ 5 คนไปอบรมด้านระบบรางที่วิทยาลัยการคมนาคมขนส่งสาธารณะ ฉงชิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และวิทยาลัยได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี และวิทยาลัยรังสิต ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งทางรางเพื่อต่อยอดการศึกษาด้วย ในปีการศึกษา 2562 และ 2563 วิทยาลัย จะขยายการรับนักศึกษาในสาขางานตู้รถไฟ (Rolling Stock) และสาขางานซ่อมบำรุงระบบราง (Track Work)ตามลำดับ
ธุรกิจบริการไม่ต่ำกว่า2,000คน
วัชรวี จันทรประกายกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย(มกค.)กล่าวว่าเพื่อรองรับระบบราง ต้องผลิตบุคลากรที่เกี่ยวกับธุรกิจที่ต่อเนื่องเชื่อมต่อกับขนส่ง โลจิสติกส์ รวมถึงการวางผังเมือง อย่างการสร้างคอนโดมีเดียเชื่อมโยง ระบบราง การบริหารทรัพยากร ทางกายภาพ หรือบริหารสถานี เพื่อสร้างรายได้
ซึ่งประเทศอาเซียน มีองค์กรและบริษัทต่างๆ ที่มีความต้องบุคลากรสายตรงเกี่ยวข้องกับ การจัดการธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ ระบบรางไม่ต่ำกว่าปีละ 10,000 อัตรา ขณะที่ไทยมีความต้องการ ปีละไม่ต่ำกว่า 2,000 อัตรา แต่ ขณะนี้ยังไม่มีสถาบันการศึกษาใดสามารถผลิตบุคลากรด้านวิศวกรรมการจัดการธุรกิจระบบราง
ทั้งนี้ม.หอการค้าไทย ร่วมกับ วิทยาลัย Luizhou College ประเทศจีน และบริษัทรถไฟฟ้า รฟท จำกัด พัฒนาหลักสูตรวิศวกรรมการจัดการธุรกิจ และผลิตบุคลากร ที่มีองค์ความรู้การจัดการธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับระบบราง ตอบสนองความต้องการของภาครัฐ
ไม่ว่าจะเป็นระบบรถไฟ รางคู่ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าบนดิน และรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งก่อสร้างในปัจจุบันและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ครอบคลุม 76 จังหวัด รวมระยะทางมากกว่า 30,000 กิโลเมตร ผ่านย่านธุรกิจ การค้า และอุตสาหกรรม รวมทั้งพัฒนาสถานีและย่านธุรกิจโดยรอบ 76 จังหวัด ไม่น้อยกว่า 400 สถานี