อีกหนึ่งผลงานของนักวิจัยไทยที่ไปโลดแล่น สร้างชื่อเสียงบนเวทีโลก
“ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสตรีจากสารสกัดสมุนไพรไทย” (Feminine hygiene products from Thai medicinal herb extracts) ของ ภญ.เอมอร ชัยประทีป อาจารย์วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ที่ไปคว้ารางวัล Gold Prize และรางวัลพิเศษ Diploma จาก National University of Science and Technology “MISIS” ประเทศรัสเซียจากงาน Seoul International Invention Fair 2017 (SIIF 2017) ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ประกอบด้วย เม็ดสอดช่องคลอดจากสารสกัดสมุนไพรไทย โลชั่นทำความสะอาด และ ทิซชูเปียก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่แพ้ยาแผนปัจจุบัน และผู้ที่ดื้อต่อยาแผนปัจจุบัน
ภญ.เอมอร เผยว่า การติดเชื้อแคนดิดาที่ช่องคลอด (Vulvovaginal candidiasis) ส่งผลเสียต่อสุขภาพสตรีทั่วโลก โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S.FDA) อนุมัติให้ใช้ยาเหน็บช่องคลอดโคลไตรมาโซล ในการรักษาช่องคลอดติดเชื้อแคนดิดา แต่ปัจจุบันพบว่า การรักษาโรคติดเชื้อแคนดิดาในช่องคลอดด้วยยาแผนปัจจุบัน มีอัตราการดื้อยาที่สูงขึ้น เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ ใช้ยาไม่ต่อเนื่องและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์เม็ดสอดช่องคลอด และผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสำหรับสตรีจากสมุนไพรไทย ที่มีโฆษณาและจำหน่ายตลาดออนไลน์ ส่วนใหญ่จะไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการแพ้ และติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสตรีที่วิจัยขึ้นนี้ ประกอบด้วย กระเทียมและข่า ซึ่งมีการศึกษารายงานว่ากระเทียม (Garlic) และข่า (Galangal) มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญ ของเชื้อแคนดิดา ทั้งนี้สมุนไพรทั้งสองชนิด ยังถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติในตำรับสมุนไพรที่มีข้อบ่งใช้ในการรักษามุตกิต ระดูขาว
ภญ.เอมอร กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดกระเทียมและข่าเพื่อสุขอนามัยสำหรับสตรีในรูปแบบทิซชูเปียก โลชั่นทำความสะอาด และเม็ดสอดช่องคลอด โดยใช้กระบวนการตอกยาเม็ดแบบแกรนูลเปียก (Wet granulation method) และเป็นไปตามมาตรฐานสากล (The United States Pharmacopeia 35, The National Formulary 30; USP35/NF30) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสำหรับสตรี และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสมุนไพรไทยได้อีกทางหนึ่ง
ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสำหรับสตรีจากสารสกัดสมุนไพรไทย สามารถเพิ่มโอกาสในการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยเม็ดสอดช่องคลอดจากสารสกัดสมุนไพรไทย เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้บริโภค อีกยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ยกระดับสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานในระดับสากล เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน สร้างความมั่นใจ ความปลอดภัย เพิ่มการยอมรับของผู้ใช้ ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ซึ่งอาจส่งผลลดการนำเข้ายาแผนปัจจุบัน ลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
นอกจากนี้ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นในการถ่ายทอดเทคโนโลยี การผลิตยาเม็ดที่ได้มาตรฐานสากล ให้แก่คนรุ่นใหม่ที่สนใจการแพทย์แผนไทยอีกด้วย.