ผศ.ดร.อินทิรา ลิจันทร์พร อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยผลการวิจัยของสารเคลือบอัลจิเนตและอุณหภูมิการเก็บรักษาต่อคุณภาพทางกายภาพและเคมีของมะนาว ของนายเกรียงไกร ดาวแสงเพชร และ น.ส.วนิดา กันหนองฮะ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ว่า การยืดอายุผลไม้ทำได้โดยการควบคุมกระบวนการเปลี่ยนแปลงผลผลิตที่นำไปสู่ความเสื่อมสลาย โดยการควบคุมอัตราการหายใจของผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยวให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด สามารถทำให้ยืดอายุได้นาน
มะนาวเป็นผลไม้ที่ปลูกทั่วไปทุกภาคของประเทศไทยและมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนไทย ใช้ในการประกอบอาหาร มีความต้องการในตลาดสูง และมีราคาแพงในช่วงฤดูแล้งราคาสูงมาก อาจเป็น 10 เท่าของราคาในฤดู จึงจัดเป็นไม้ผลที่มีอัตราการหายใจการสังเคราะห์เอทิลีนต่า ทำให้มะนาวมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น สีเปลือกเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นเหลืองและน้ำตาลภายใน 2 สัปดาห์ที่อุณหภูมิห้อง เพื่อเป็นแนวทางการยืดอายุผลิตผลมะนาว การเก็บรักษา จึงได้ทำการศึกษาผลของสารเคลือบอัลจิเนตและอุณหภูมิการเก็บรักษาต่อคุณภาพทางกายภาพและเคมีของมะนาว
จากการวิจัยโดยการเคลือบผลมะนาวด้วยอัลจิเนตที่ความเข้มข้นร้อยละ 0 1 2 3 และ 4 มีอายุการเก็บรักษา 10 วัน ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสและ 35 วัน ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส โดยการเคลือบผิวมะนาวด้วยสารอัลจิเนตโดยสามารถชะลอการสูญเสียน้าหนักได้มากกว่ามะนาวที่ไม่เคลือบผิวและการเคลือบผิวมะนาวด้วยอัลจิเนตร้อยละ 4 ลดการสูญเสียน้ำหนัก มีค่าความแข็งมากกว่าชุดการทดลอง อื่น ๆ เมื่อเก็บที่ 4 องศาเซลเซียสสามารถชะลอการสูญเสียน้ำหนักได้มากกว่ามะนาวที่ไม่เคลือบผิว โดยเฉพาะมะนาวที่เคลือบผิวด้วยอัลจิเนตร้อยละ 4 สามารถลดการสูญเสียน้ำหนักโดยมีอายุการเก็บรักษาเท่ากับ 35 วัน จากการวิเคราะห์ผลของการเคลือบผิวอัลจิเนตในมะนาว สามารถช่วยรักษาคุณภาพของมะนาวไว้ได้ จะช่วยรักษาคุณภาพของผลมะนาวไว้ได้นานยิ่งขึ้น สามารถนำมาใช้ในการยืดอายุและเก็บรักษามะนาว เพื่อช่วยให้ผู้ที่ต้องการเก็บรักษาผลผลิต หรือเกษตรกร ผู้ขายมะนาวขายผลผลิตได้มากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลการเน่าเสียของผลผลิต.