สยามกีฬา ฉบับวันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
พิษณุ นาคจันเสน และ สุริยะ ประเสริฐศรี
ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการแข่งขันที่สำคัญของเซียนลูกเด้งในวัยเรียน ระดับมหกรรมกีฬาสำคัญถึง 2 รายการ รายการแรกคือการแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 39 “ขุนด่านเกมส์” จังหวัดนครนายก มีทีมเข้าร่วม 10 ทีมเขตการศึกษา ดดยบรรยากาศการแข่งขันขับเคี่ยวชิงชัยเป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่ละทีมส่งนักกีฬาฝีมือดีที่สุดเข้าลงทำการแข่งขัน สู้กันสุดความสามารถ ทีมเต็ง 1 ย่อมเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยอดทีมจากเมืองหลวง เขต 10 กทม. ที่รวมยอดนักกีฬาของประเทศไว้คับคั่ง แต่นักกีฬาของเขตอื่นๆ ก็ไม่น้อยหน้า สู้อย่างชนิดที่ว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน สมศักดิ์ศรีตัวแทนของแต่ละเขตจริงๆ ครับ ในส่วนของการแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยวเกิดการพลิกล็อก เมื่อนักกีฬาจาก กทม. พลาดท่าจึงทำให้นักกีฬาจากเขตการศึกษาที่ 2 เข้าชิงกันเอง และแชมป์ก็ตกเป็นของนาจา เมฆอัมพร จากเขตการศึกษาที่ 2 แต่สิ่งที่ล้ำค่ามากกว่าเหรียญรางวัลคือประสบการณ์และมิตรภาพที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขัน ทำให้นักกีฬาทุกคนได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เรียนรู้จากการพ่ายแพ้เพื่อนำมาพัฒนาตนเอง เรียนรู้จากชัยชนะเพื่อเป็นบททดสอบความสามารถและการทุ่มเท และการให้อภัย เมื่อจบการแข่งขัน แล้วทุกคนก็คือเพื่อนกัน เกิดเป็นมิตรภาพที่สวยงามเสมอ
สำหรับการแข่งขันรายการที่สอง คือ การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย กีฬาแห่งปัญญาชน ราชมงคลธัญบุรีเกมส์ ครั้งที่ 45 และในการแข่งขันครั้งนี้ ก็มีการจัดการแข่งขันกีฬาปิงปอง เหมือนเช่นเคย มีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันมากมาย โดยแบ่งออกเป็น ทีมชาย 39 ทีม ทีมหญิง 23 ทีม มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมาก โดยมีการชิงชัยทั้งหมด 7 เหรียญทอง คือทีมชาย ทีมหญิง ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่ และคู่ผสม และแต่ละมหา’ลัยยังส่งนักกีฬาระดับทีมชาติ เยาวชนทีมชาติ เข้าร่วมการแข่งขันหวังนำชัยสู่สถาบัน จึงทำให้รายการแข่งขันครั้งนี้มีความน่าสนใจมาก
การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย เป็นแนวทางเดียวกับการแข่งขันกีฬากรมพละ กีฬาสาธิต ในระดับมัธยม คือ เป็นการแข่งขันเพื่อสถาบันการศึกษาของตัวเอง แต่กีใมหาวิทยาลัยเป็นนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาเข้าร่วมการแข่งขัน จึงทำให้เกมการแข่งขันแตกต่างไปอีกแบบหนึ่งเสน่ห์ของการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอีกอย่างคือการนำนักกีฬาต่างสโมสร ต่างสังกัด มารวมเป็นทีมเดียวกัน ฝึกซ้อมร่วมกัน และทำเพื่อสถาบันเดียวกัน และสิ่งที่ยังเห็นและคุ้นตาเป็นประจำคือ การแสดงพลังของความเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้อง ความสามัคคี และการดูแลซึ่งกันและกัน เหนือเกมกีฬาของทุกๆ สถาบัน
ความสนุก ความมันและความตื่นเต้นในการแข่งขันครั้งนี้ มักจะเกิดขึ้นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเสมอ มากกว่ารอบชิงชนะเลิศด้วยซ้ำ เพราะความยากในการแข่งขัน คือรอบที่จะชนะแล้วได้รับเหรียญรางวัล จึงทำให้ทุกทีมทุ่มเทความสามารถงัดพลังทุกอย่างที่มี กองเชียร์ส่งเสียงเชียร์ดังลั่น จึงทำให้ดูแล้วมีความสนุกและความมันเกิดขึ้นในสนาม และอีกสิ่งที่ผมเห็นและสัมผัสได้ ในการแข่งขันครั้งนี้ ทุกๆ ชัยชนะที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะใครมีความฟิตของร่างกาย มีความชำนาญด้านทักษะมากกว่ากันแต่เพียงอย่างเดียว แต่การแข่งขันของนักกีฬาระดับปัญญาชน เกิดจากการใช้ความคิด การวางแผนในการเล่นเข้าสู้กัน ใครคิดได้ก่อนคนนั้นมักจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ซึ่งอาจจะมีมานานแล้ว แต่ผมสัมผัสไท่นี่ และสิ่งนี้จะเป็นอีกแบบการฝึกหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ
อีกหนึ่งสิ่งที่เราจะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ คือเจ้าภาพฝ่ายจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการแข่งขันที่มีการจัดการในระดับที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นสนามแข่งขัน ซึ่งจัดไว้ในห้องประชุมขนาดใหญ่ แอร์เย็นสบายจนถึงขั้นทำให้นักกีฬาหนาวจนตัวสั่นกันเลยทีเดียว โต๊ะแข่งขันก็ได้มาตรฐานและมีจำนวนมากพอต่อแมตช์การแข่งขัน บรรยากาศภายในสนามดูมีมนต์ขลัง ชวนให้ลงไปทำการแข่งขันมาก แต่ไฮไลต์ที่เจ้าภาพจัดเตรียมไว้ให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ กลับเป็น “เจ้าเหลืองจิ๋ว” รถจักรยานสีเหลือง ที่เจ้าภาพนำมาให้นักกีฬาใช้บริการสำหรับการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีจำนวนเยอะมากๆ เจ้าเหลืองจิ๋วทุกคัน ก่อนนำไปปั่นทุกครั้ง ต้องสแกนบาร์โค้ดเท่านั้น เมื่อจอดไว้ไม่ว่าที่ไหนเจ้าเหลืองจิ๋วจะล็อกอัตโนมัติทันที ทำให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่สนุก สนาน ตื่นเต้น อีกทั้งยังช่วยให้เป็นการวอร์มร่างกาย และยังทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย ซึ่งเป็นจุดสนใจไม่แพ้เกมการแข่งขันเลย
ผมเชื่อว่ามีหลายคนสงสัยว่า รู้ว่าแพ้แต่ทำไมถึงยังส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน ผมคิดว่าทุกๆ สถาบันที่ส่งทีมเข้าร่วมนั้นพวกเค้ามาด้วยความหวัง แต่ความหวังนั้นก็มีระดับแตกต่างกันไปตามศักยภาพของแต่ละสถาบัน และความหวังนั้นก็ไม่จำเป็นต้อง ชนะเสมอไป และผมก็ยังเชื่ออีกว่า ทุกสถาบันที่ยังส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันอยู่นั้นเกิดจากการที่พวกเขายอมรับแต่ไม่ยอมแพ้ กีฬายังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกมากมาย และกีฬายังให้อะไรมากกว่าที่เราคิด พบกันใหม่กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 46 ครับ