มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561
ทีมรักบี้ 7 คนหนุ่ม “ลูกแม่โดม” ม.ธรรมศาสตร์ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ หลังปล้ำเอาชนะ ม.กรุงเทพ 12-5 ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 45 “ราชมงคลธัญบุรีเกมส์” ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เมื่อวันที่ 28 มกราคม ซึ่งเป็นการชิงชัยวันที่ 7
“แชมป์เก่า” ม.ธรรมศาสตร์ โคจรมาพบกับ ม.กรุงเทพ ซึ่งเป็นนัดล้างตาของ ม.กรุงเทพ หลังจากเคยแพ้มาในรอบรองชนะเลิศปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามลูกแม่โดมยังคงแข็งแกร่งเอาชนะไป 12-5 คว้าแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน ด้านทีมหญิง สถาบันการพลศึกษา ชนะ ม.กรุงเทพ 12-5 ทำให้ ม.กรุงเทพอกหักได้รองแชมป์ทั้งชายและหญิง
ขณะที่ซอฟต์บอล ทีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ ม.ธรรมศาสตร์ ชนะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 9-2 เซปักตะกร้อ รอบชิงชนะเลิศ ชายคู่ สพล. ชนะ มทร.พระนคร 21-19, 21-16 หญิงคู่ ม.กรุงเทพธนบุรี ชนะ สพล. 21-16, 16-21, 21-17
‘กรุงเทพธนฯ-สพล.’2ทองมวยไทย
นักมวยไทยหญิงจาก สพล. เข้าชิงชนะเลิศ 3 จาก 5 รุ่น เก็บ 2 ทอง เท่ากับ ม.กรุงเทพธนบุรี สรุปผลรอบชิงชนะเลิศ ดังนี้ รุ่น 48 กก.หญิง วิสุดา สุขเจือ(สพล.) ชนะอาร์เอสซี ยก 1 จิรายุ ปานมณี(ม.เกษมบัณฑิต) รุ่น 51 กก.หญิง กรรณิกา บางนรา(ม.กรุงเทพธนบุรี) ชนะคะแนน เจนจิรา แซ่เตียว(มรภ.สุราษฎร์ธานี) 30-27 อาทิตยา สายสิญจน์(ม.ธรรมศาสตร์) ชนะคะแนน ปานเนตร แก้วภมร(ม.มหาสารคาม) 30-27 อารียา สาโหด(ม.กรุงเทพธนบุรี) ชนะคะแนน ประกายรัตน์ วงสุธา(สพล.) 20-18 เกศินี ทับไทร(สพล.) ชนะอาร์เอสซี ยก 1 พัชริดา ทั่งทอง(ม.มหาสารคาม)
‘จุฬาฯ’ไม่ซีเรียสแม้อาจจบที่3
ศาสตราจารย์บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หลังจากกำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของราชมงคลธัญบุรีเกมส์ ถือว่าผลงานของทัพนักกีฬาจามจุรีอาจจะไม่เป็นไปตามเป้านัก แต่เป็นเรื่องปกติของกีฬาที่มีแพ้มีชนะ ซึ่งก่อนการแข่งขันมีโอกาสที่จะกลับมาทวงเจ้าเหรียญทองได้ แต่ตอนนี้อาจจะตกไปเป็นอันดับ 3 เป็นรองสถาบันการพลศึกษา และ ม.กรุงเทพธนบุรี ซึ่งส่วนตัวไม่ได้มองเป็นเรื่องเสียหายอะไร เนื่องจากการแข่งขันกีฬาปัญญาชนไม่จำเป็นว่าสถาบันใดสถาบันหนึ่งจะต้องผูกขาดเจ้าเหรียญทอง เพราะผลการแข่งขันและการเป็นเจ้าเหรียญทองนั้นถ้ามีการเปลี่ยนให้สถาบันอื่นได้ขึ้นมาบ้างก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาคุณภาพและการให้ความสำคัญในด้านกีฬาของแต่ละสถาบัน หากวนอยู่แต่มหาวิทยาลัยเดิมๆ ก็อาจจะทำให้ไม่มีสีสันและเป็นการผูกขาดเกินไป อย่างไรก็ตามแม้จะมีเรื่องการดึงนักกีฬาเก่งๆ ไปร่วมสถาบันนั้นๆ ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย หากสถาบันนั้นให้ความสำคัญและสนใจการพัฒนานักกีฬาจริงๆ แม้จะดึงคนเก่งและมีการบริหารจัดการที่ดีนักกีฬาก็ได้มีที่เรียน และยังได้ฝึกซ้อมและพัฒนาศักยภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง
สพล.ยันเป็นเบอร์1ตะกร้ออีกนาน
อ.วีระชัย แสงสว่าง ผู้ฝึกสอนทีมตะกร้อ สพล. เปิดเผยว่า ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของทีมหวดลูกพลาสติก สพล. เกิดจากการสร้างนักกีฬาตะกร้อเยาวชนจากโรงเรียนกีฬาชลบุรีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รู้ว่าเด็กแต่ละคนมีรูปแบบการเล่นแบบไหน และนักตะกร้อทีมชาติไทยส่วนใหญ่ก็มาจากโรงเรียนกีฬาชลบุรี และเมื่อจบจากโรงเรียนกีฬา ก็จะส่งต่อไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ต่อไป ตอนนี้ก็มีดาวรุ่งเด่นๆ จากโรงเรียนกีฬาชลบุรี ชุดแชมป์กีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 39 “ขุนด่านเกมส์” ขึ้นมาเสริมทัพ สพล. อย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่กลัวว่า สพล.จะขาดนักกีฬาตะกร้อไป ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีไปอยู่กับ ม.กรุงเทพธนบุรี มากก็ตาม เพราะเน้นสร้างนักกีฬารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่วนทีมตะกร้อหญิงของ สพล. ก็จะพยายามรักษาแชมป์เอาไว้ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้