สยามกีฬา ฉบับวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2561
ทีมนักหวดลูกพลาสติกจาก ม.กรุงเทพธนบุรี ฟื้นจากหลุมหลังถูกแบน 1 ปีกลับมาผงาดกระชากแชมป์ทีมชุดชายเป็นสมัยที่ 10 ด้วยการไล่เบียดชนะ ม.รัตนบัณฑิต ฉิวเฉียด 2-1 ทีม ขณะที่ทีมชุดหญิงสาวสถาบันการพลศึกษาไม่พลาดนั่งบัลลังก์สมัยที่ 6 อย่างสวยงาม ด้านแบดมินตันทีมหญิง “ปัญญาชนเกมส์” ปีนี้มีพลิกล็อก เมื่อทีมขนไก่สาวรั้วจามจุรี แชมป์เก่า 8 สมัย แม้จะได้ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักตบขนไก่หญิงเดี่ยว มือ 18 ของโลกนำทัพ แต่ก็มาพลาดท่าแพ้ ม.กรุงเทพ 2-3 คู่ได้แค่เหรียญเงิน ขณะที่ทัพง่ายน้ำจุฬาฯ ช็อก! “หมอนอิง” เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก นักว่ายน้ำทีมชาติตัวท็อปของสถาบันเจ็บระหว่างซ้อมหมอสั่งพัก 3 เดือนถอนแข่งกะทันหันทองหายไปถึง 7 รายการ ด้าน ม.กรุงเทพธนฯ เครื่องแรงแซงนำจ่าฝูง “ราชมงคลธัญบุรีเกมส์” แล้ว
กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 45 “ราชมงคลธัญบุรีเกมส์” ที่ ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา มีการพลิกโผในตารางเหรียญรางวัลเมื่อทัพนักกีฬาจาก ม.กรุงเทพธนบุรี ม้ามืดโกยเหรียญทองแซงทีมเต็ง ทั้ง สถาบันการพลศึกษา กับ จุฬาฯ ขึ้นนำจ่าฝูงเรียบร้อยแล้ว คว้ามารวมแล้ว 21 ทอง 8 เงิน 8 ทองแดง ขณะที่แชมป์เก่าสถาบันการพลศึกษา 20 ทอง 17 เงิน 13 ทองแดง ตามเป็นที่ 2 ส่วน จุฬาฯ อยู่ที่ 3 ตามห่าง ๆ 12 ทอง 20 เงิน 15 ทองแดง
ตะกร้อหญิงสพล.ฟาดแชมป์6สมัย
เซปักตะกร้อ ประเภททีมชุดหญิง รอบชิงชนะเลิศ แชมป์เก่า 5 สมัย สถาบันการพลศึกษา พบกับ ม.กรุงเทพธนบุรี โดยปีนี้แชมป์เก่ายังคงขนผู้เล่นดีกรีทีมชาติชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 29 วิภาดา จิภาพรรณ กับ สมฤดี ปรือปัก ลงเป็นตัวหลักทั้งในทีมก และ ทีม ข นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นชุดเตรียมเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 มาเสริมแกร่งอีกหลายคน ทำให้แมตช์นี้ยังคงสามารถคุมเกมคู่แข่งได้ตลอดก่อนชนะ 2-0 ทีม โดย ทีม ก ชนะ 2-0 เซตด้วยสกอร์ 21-12 และ 21-12 จากนั้นทีม ข มาชนะได้ 2-0 เซตด้วยสกอร์ 21-11 และ 21-16 ส่งผลให้ ทีมนักหวดลูกพลาสติกจาก สถาบันการพลศึกษา ครองแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกันทันที
หลังการแข่งขัน นายวีระชัย แสงสว่าง ผู้ฝึกสอนเซปักตะกร้อมทีมชุดหญิง สพล กล่าวว่า แม้จะเป็นแชมป์เก่ามาแล้ว 5 สมัยในครั้งนี้ก็ยังไม่ประมาทคู่ต่อสู้ นักกีฬามีความมุ่งมั่น และ ละเอียดในการเล่นแต่ละเกม แม้จะมีทีมชาติเยอะแต่ที่ผ่านมาซ้อมอย่างเข้มข้นไม่ประมาท เนื่องจากคู่แข่ง ม.กรุงเทพธนบุรี ก็ใช้ผู้เล่นที่เป็นนักกีฬาเก่าที่เรียนจบป.ตรีจาก สพล มาเช่นกัน ก็เหมือนเป็นการแข่งขันระหว่างทีมพี่ และ ทีมน้อง
“พอใจและดีใจกับผลงานลูกทีมที่ยังสามารถคว้าแชมป์มาได้เป็นสมัยที่ 5 นอกจากนี้ยังเหลือลุ้นในประเภทคู่ ซึ่งที่ผ่านมา สพล เป็นแชมป์มาตลอด และเพิ่งจะมาเสียแชมป์ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 44 สุรนารีเกมส์เมื่อปีที่ผ่านมา และปีนี้จะขอกลับมาทวงแชมป์คืนครับ” นายวีระชัย กล่าว
ส่วนทีมชุดชาย คู่ชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่าง ม.กรุงเทพธนบุรี แชมป์เก่า 9 สมัย ที่หลังจากถูกโทษแบน 1 ปี เนื่องจากมีนักกีฬาผิดคุณสมบัติอยู่ในทีมเมื่อการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 43 ที่ ม.อุบลราชธานี ขนตัวดาวรุ่งลงชิงดำกับ ม.รัตนบัณฑิต รองแชมป์เก่าที่ตัดเชือกชนะ สถาบันการพลศึกษา แชมป์เก่าเข้ามา ทว่าในคู่นี้ถือว่าสู้กันได้อย่างสูสี โดยทีม ก. ต้องสู้กันถึง 3 เซตก่อนที่ ม.กรุงเทพธนบุรี จะเป็นฝ่ายเฉือนชนะ 13-21, 21-11 และ 21-17 จากนั้นทีม ข ม.กรุงเทพธนบุรี มีปัญหาเสิร์ฟเสียง่ายทำให้ ม.รัตนบัณฑิต ได้แต้มติดต่อกันหลายครั้งและเอาชนะไป 2-0 เซตด้วยสกอร์ 21-18 และ 21-14 ตีเสมอ 1-1 ทีม ต้องมาตัดสินที่ทีม ค ปรากฎว่า ทีมแชมป์เก่า 9 สมัยอาศัยการเล่นที่รัดกุมขึ้นและสภาพจิตใจที่นิ่งกว่าเอาชนะไป 2-0 เซตด้วยสกอร์ 21-18 และ 21-19 ส่งผลให้ ม.กรุงเทพธนบุรี สามารถคืนกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ปัญญาชนเกมส์เป็นสมัยที่ 10
หลังการแข่งขัน นายอำนวย จันทรมนตรี ผู้ฝึกสอนทีมเซปักตะกร้อทีมชุดชาย ม.กรุงเทพธนบุรี กล่าวว่า ดีใจและปลื้มใจกับลูกทีมที่สามารถกู้ศักดิ์ศรีให้สถาบันคืนได้หลังต้องโทษแบนไม่ได้ลงแข่งมา 1 ปี ซึ่งทีมชุดนี้ก็ถือว่าเป็นทีมดาวรุ่งที่สร้างขึ้นมา โดยเฉพาะใน สถานการณ์ที่สูสี ทีม ค ที่แม้จะมีผู้เล่นในระดับไทยแลนด์ลีก แต่วันนี้ถือว่าเล่นได้ดีมาก
ขนไก่สาวจุฬาฯชวดแชมป์สมัย9
แบดมินตัน ประเภททีมรอบชิงชนะเลิศ ทีมหญิง มีการพลิกล็อกเมื่อ ทีมนักตบลูกขนไก่จาก ม.กรุงเทพ สามารถเฉือนชนะ แชมป์เก่า 8 สมัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมี ”หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักตบขนไก่หญิงเดี่ยว มือ 18 ของโลกนำทีมไปอย่างฉิวเฉียด 3-2 คู่ โดย เดี่ยวมือ 1 ณัฐพร รุ่งรังษี แพ้ พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ 8-21, 8-21 เดี่ยวมือ 2 นันทกานต์ เอี่ยมสอาด ชนะ บัณฑิตา ขำสายทอง 21-7, 21-13 คู่มือ 1 ณฐกร ใจอารีย์-ภันทรนันท์ จำแนกทาน แพ้ พชรพรรณ ช่อชูวงศ์-รวิมน เอี่ยมรัตนเมธีกุล 12-21, 15-21 คู่มือ 2 กิตติภัค ดับทุกข์-นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด ชนะ ชานิศา เตชวรสินสกุล-พรปวีณ์ 21-16, 13-21, 21-18 เดี่ยวมือ 3 มนัสนันท์ เลิศหัตถศิลป์ ชนะ ณัฐชา ฉัตรภัทริน 21-7, 21-12
ด้านทีมชาย ม.กรุงเทพธนบุรี ชนะ ม.รามคำแหง 3-2 คู่ เดี่ยวมือ 1 ปัณณวิชญ์ ทองน่วม ชนะ กิตติพงศ์ อิ่มนาค 11-21, 21-6, 21-18 เดี่ยวมือ 2 พชรพล นิพรรัมย์ แพ้ เมฆ ณรงฤทธิ์ 15-21, 21-14, 14-21 คู่มือ 1 ปริญญวัฒน์ ทองน่วม-เสริมสิน วงศ์ญาพรหม แพ้ กิตติพงศ์ อิ่มนาค-สุภัค จอมเกาะ 21-19, 14-21, 9-21 คู่มือ 2 จักรกฤษ ตันติราศิลป์-ตนุภัทร วิริยางกูร ชนะ ณัฐดนัย เอื้อกูลวราวัตร-เมฆ ณรงฤทธิ์ 23-21, 21-10 เดี่ยวมือ 3 ปริญญวัฒน์ ชนะ สุภัค 21-11, 21-11
”โยธิน”สปีดเข้าเส้น1,500 ม.ชาย
กรีฑา ที่ สนาม มทร.ธ สนามกีฬากลาง กระโดดไกลหญิง เหรียญทองเป็นของ นักกระโดดไกลทีมชาติไทย ปริญญา เฉือยมะเริง จาก ม.กรุงเทพ ซึ่งทำสถิติได้ 6.08 ม. เหรียญเงินเป็นของ สุนิสา โคตรสีเมือง จาก ม.กรุงเทพธนบุรี ทำได้ 5.89 ม. ทองแดง ธนาภรณ์ จันทร์อ่อน จาก มรภ.สุราษฎร์ธานี 5.58 ม., วิ่ง 1,500 ม. ชาย โยธิน ยาประจันทร์ นักวิ่งทีมชาติจาก ม.ธรรมศาสตร์ วิ่งนำรวบเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทองด้วยเวลา 3.56.81 น., เงิน ทนงศักดิ์ ลิ่มเนี่ยม (ม.รัตนบัณฑิต) 4.02.29 น., ทองแดง จูเลียส มูไท (ม.หาดใหญ่) 4.02.37 น., วิ่ง 1,500 ม.หญิง ทอง จุฑามาศ โขนขำ (มรภ.สุราษฎร์ธานี) 5.08.38 น., เงิน พรกมล ไตรแก้ว (ม.มหิดล) 5.08.99 น., ทองแดง วรพรรณ นวลศรี (ม.กรุงเทพธนบุรี) 5.09.39 น., เดิน 5,000 ม.หญิง ทอง นิรมล ไกรวงศ์ (สพล.) 28.20.87 น., เงิน กัทราภรณ์ มะลิลา (ม.เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์) 29.13.50 น., ทองแดง อัจราวรรณ พรมชัย (ม.เกษตรศาสตร์) 30.10.57 น., เขย่งก้าวกระโดด ทอง สุพจน์ บุญหนุน (สพล.) 15.90 ม., เงิน ปรัชญา เทพรักษ์ (ม.กรุงเทพธนบุรี) 15.66 ม., ทองแดง กรินภพ หาหนองเภา (มรภ.บุรีรัมย์) 14.01 ม.
ส่วนวิ่ง 200 ม. นั้นจะชิงกันในวันที่ 26 ม.ค. 2561 โดย จิระพงศ์ มีนาพระ จาก ม.กรุงเทพธนบุรี ทำเวลารอบคัดได้ดีตามคาด เข้ารอบชิงชนะเลิศอยู่ในลู่ 4 ต้องมาเจอกับ ชยุตม์ คงประสิทธิ์ จาก ม.กรุงเทพ ที่ทำเวลามาดีในรอบคัดเลือกเช่นกัน ขณะที่ วิ่ง 200 ม. หญิง นักกีฬาลมกรดทีมชาติ สุรีวรรณ รูนันต์ จาก ม.ธรรมศาสตร์, สุภาวรรณ ธิปัตย์ จาก สพล. แชมป์ 100 ม. และ อรอุมา เชษฐา จาก มรภ.ชัยภูมิ เข้ารอบชิงชนะเลิศไปตามคาด
ส่วนผลการชิงชัยเหรียญทองกีฬาอื่นๆ มีดังนี้ ยูโด รุ่นน้ำหนักเกิน 100 กก. ชาย ทอง คุณาธิป เยี่ยอ้น (ม.รังสิต), รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 100 กก. ชาย ทอง เว ปูหยัง (ม.นอร์ทกรุงเทพ), รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 90 กก. ชาย ทอง กิตติพงษ์ กันตราฐิน (มรภ.เทพสตรี), รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 81 กก. ชาย ทอง สุขณธี สุนทรา (ม.เกษมบัณฑิต), รุ่นโอเพ่นเวต ไม่จำกัดน้ำหนักชาย ทอง ณวรรษ ชัยศรี (ม.รังสิต), โอเพ่นเวต ไม่จำกัดน้ำหนักหญิง ทอง จุฬาลักษณ์ เยี่ยอ้น (มศว), ยิงปืน ปืนยาวท่านอน บุคคลชาย ทอง อัฐพล เอื้ออารี (ม.กรุงเทพธนบุรี) 617.9 คะแนน, ปืนยาวท่านอน ทีมชาย ม.กรุงเทพธนบุรี (ภัทรวิน วันแก้ว, อัฐพล เอื้ออารี, สุภนิต บุญพิภักดิ์) 1821.9 คะแนน, ปืนสั้นอัดลม ทีมชาย ทอง ม.กรุงเทพธนบุรี (ธวัชชัย บัวอยู่, เจตกานต์ จอกแก้ว, ศุภณัฐ ศรีจันทร์เฟื้อ, ภานุ สุธีรศักดิ์) 1667 คะแนน ปืนสั้นอัดลม บุคคลชาย ทอง ณัฐพันเลิศ เอื้ออภิญญกุล (มรภ.เชียงใหม่) 565 คะแนน, ฟันดาบ เอเป้ ทีมชาย ทอง ม.รัตนบัณฑิต (กรกฎ จึงอำนวยชัย, นฤพล อาสานอก, ธันวา จันทรปิฏก, สุทธิสาร จันคงช่วย), ฟอยล์ ทีมหญิง ทอง จุฬาฯ (พลอยไพลิน ทองจำปา, ศศิธร เทียบเพีย, เขมจิรา บุญธรรมวนิช, ศวิตา กิตติวงศากุล), ส่วนผลอื่นๆ มีดังนี้ เปตอง ที่ มทร.ธ สนามเปตอง หญิงเดี่ยว ทอง ภัทรธิดา มีพักตร (ม.รัตนบัณฑิต), ชายเดี่ยว ทอง กฤษฎา ลักษณะสมบูรณ์ (สพล.), ครอสเวิร์ด มทร.ธ อาคารเรียนรวม 13 ชั้น ประเภทคู่ผสม ทอง สุพิชญา ตันติศิริวัฒน์-ณัฐพงศ์ พลทิพย์ (จุฬาฯ),เอเม็ท ที่ มทร.ธ อาคารเรียนรวม 13 ชั้น ทอง จารุกิตติ์ จันทร์ศิริ-สิรินทรา สาวงศ์ตุ้ย (ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ), หมากกระดาน มทร.ธ อาคารเรียนรวม 13 ชั้น หมากล้อมทีมผสม
ทอง ม.ธุรกิจบัณฑิตย์, หมากล้อมคู่หญิง ทอง ศศพร จอมหงษ์-อรุณกร ประทุมวัน (ม.รัตนบัณฑิต ), เทควันโด สนาม มทร.ธ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ รุ่นไม่เกิน 62 กก. หญิง ทอง ธนาภา แซ่เล้า (จุฬาฯ), รุ่นไม่เกิน 74 กก. ชาย ทอง หฤษฎ์ ผิวสอาด (ม.เกษตรศาตร์), รุ่นไม่เกิน 68 กก. บุคคลชาย ทอง อินทัช รัตนาวังเจริญ (จุฬาฯ) ทศกรีฑา ทอง ฤทธิไกร คิอินทิ (มรภ.สกลนคร) 5,930 คะแนน เงิน คงเดช ปัญญาสวัสดิ์ (สพล.) 5,276 คะแนน, ทองเดง วสันต์ อินผิว (ม.กรุงเทพ) 4,982 คะแนน, วิ่ง 400 ม. หญิง ทอง รัชดา ตาหลี (มรภ.สุราษฎร์ธานี) 57.09 วิ., เงิน จุฑามาศ โขนขำ (มรภ.สุราษฎร์ธานี) 57.23 วิ., ทอง พรพรรณ เหิมฮึก (ม.กรุงเทพธนบุรี) 57.59 วิ., วิ่ง 400 ม. ชาย ทอง อภิสิทธิ์ ฉ่ำศรี (ม.เกษตรศาสตร์) 48.17 วิ., เงิน จิรายุ ปรีนารัมย์ (มธ.) 48.36 วิ., ทองแดง ณัฐฎดนัย พลเยี่ยม (มรภ.นครราชสีมา) 48.80 วิ.
สพล.เจอปัญหานักกีฬาย้ายสังกัดอื้อ
ดร.ปริวัฒน์ วรรณกลาง รักษาการอธิการบดีสถาบันการพลศึกษา (สพล.) กล่าวว่า ปีนี้แม้ สพล. จะถูกจับตามองว่ามีโอกาสที่จะคว้าเจ้าเหรียญทองอีกครั้ง เพราะจากที่สุรนารีเกมส์ ปีที่แล้ว สพล. คว้าเหรียญทองมาเยอะกว่า 60 เหรียญทอง ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากเรือพาย, ปันจักสีลัต ที่เป็นกีฬาที่ สพล. มีความโดดเด่น รวมถึงกีฬาอื่นๆ อย่าง มวยไทสมัครเล่น มวยสากลสมัครเล่น เซปักตะกร้อ กรีฑา และ ยิงปืน แต่สำหรับปีนี้ สพล. เจอปัญหานักกีฬาจบ ป.ตรี และไปต่อ ป.โท ที่สถาบันอื่นเยอะ ทำให้เสียนักกีฬาดีๆ ไปเยอะพอสมควร แม้นักกีฬาที่มีอยู่ก็มีฝีมือ ความสามารถ แต่เมื่อไปเจอกันเองระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องแต่ต้องแข่งภายใต้คนละสถาบัน รุ่นน้องก็จะเกร็ง และประสบการณ์ ความเก๋า ก็เป็นรองรุ่นพี่ ปีนี้ สพล. ประเมินความหวังไว้ที่ 56 เหรียญทอง มองว่า โอกาสจะได้เกิน 60 นั้นมีไม่เยอะ เพราะหลายกีฬาอย่าง ยิงปืน ที่ปีนี้มีความผิดพลาดในการเตรียมทีมจึงไม่หวัง ขณะที่กีฬาอื่นๆ นักกีฬาหายไปความหวังก็ลดลงทั้ง มวยไทย, มวยสากล
”ตอนนี้ก็ยังอุ่นใจที่เรือพายทำผลงานได้ตามเป้าเกิน 10 ทอง ก็ต้องมาลุ้นที่ปันจักสีลัต หาก 2 กีฬานี้ทำเหรียญทองได้เกิน 20 เหรียญ ก็ยังวางใจได้ในส่วนกีฬาอื่นๆ อย่าง กรีฑา ก็ยังมีสิทธิ์ได้อีกหลายเหรียญ และเก็บๆ ในกีฬาที่ถนัด หากทุกอย่างเป็นไปตามคาดก็หวังว่าจะได้ลุ้นที่ 56 ทอง แต่ถ้าโชคดีกว่านั้นได้เกิน 60 ทองก็มีลุ้นเจ้าทองอีกครั้ง แต่ยังต้องจับตาดู ม.กรุงเทพธนบุรี ที่ปีนี้มีนักกีฬาดีๆ เยอะ มีสิทธิ์ที่จะมาเบียด รวมถึงจุฬาฯ ที่ยังแข็งแกร่งอีก อย่างไรก็ตาม ปีนี้ก็ถือว่าสนุกไม่แพ้ทุกๆ ปี”
”หมอนอิง”เจ็บ,จุฬาฯทองหาย7เหรียญ
ด้านความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาว่ายน้ำจากรั้วจามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ล่าสุด ”เงือกหมอนอิง” เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก นักว่ายน้ำทีมชาติไทย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตนมีอาการเจ็บสะสมมาสักระยะ แต่ไม่คิดว่าเป็นอะไรจึงยังซ้อมปกติ แต่หลังจากที่ไปพบแพทย์จึงทราบว่าเอ็นร้อยหวายข้างซ้ายอักเสบเรื้อรัง เอ็นฝ่าเท้าด้านขวาฉีก 2.5 ซม. กระดูกเท้าด้านนอกฝั่งขวาช้ำ ดูจากอาการสะสมมานานแล้ว ทำให้แพทย์สั่งให้พักจากการฝึกซ้อม 3 เดือน และต้องเข้าเฝือกบริเวณที่มีอาการเจ็บด้วย ส่งผลให้ต้องถอนตัวจากกีฬามหาวิทยาลัยทั้ง 7 รายการที่ลงไว้ก่อนหน้านี้
”เสียดายมากที่ไม่ได้แข่ง เพราะลงเอาไว้หลายรายการ แต่ดูอาการแล้วอยากจะให้หายดีก่อน เพราะปีนี้มีเอเชียนเกมส์ ที่อินโดนีเซีย ในเดือนสิงหาคม กลัวว่าจะกระทบกับตรงนั้น นอกจากนั้นก็ยังไม่มีรายการอะไรที่สำคัญ ตอนนี้พักมาแล้ว 2 สัปดาห์ ถ้าอาการดีขึ้นเร็ว ก็อาจจะกลับมาซ้อมก่อนครบกำหนด 3 เดือน” หมอนอิงกล่าว