นิทรรศการศิลปกรรมค่ายศิลปะ Art Camp ประจำปี 2557 เป็นการจัดแสดงผลงานศิลปะกว่า 300 ผลงาน ของศิลปินแห่งชาติ คณาจารย์ ศิลปินอิสระ และอดีตนิสิตนักศึกษาผู้เคยได้รับทุนจากกองทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ “มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” โดยผลงานส่วนหนึ่งเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นการส่วนตัว และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลงานที่ทุกคนได้ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นระหว่างการไปเข้าค่ายศิลปะที่จังหวัดระนอง นิทรรศการจะจัดขึ้นถึงวันที่ 31 สิงหาคม 5 ณ หอพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า เปิดให้เข้าชมเวลา 09.00-16.00 น. (ยกเว้นวันจันทร์และอังคาร) ในวันเปิดนิทรรศการ ฯพณฯ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และประธานมูลนิธิรัฐบุรุษฯ ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี
กิจกรรม Art Camp เป็นกิจกรรมหลักของกองทุนฯ ที่เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาที่เคยได้รับทุนการศึกษาจากกองทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ มูลนิธิรัฐบุรุษฯ ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ระหว่างไปทำกิจกรรมร่วมกัน โดยมีอาจารย์ผู้ใหญ่ ศิลปินแห่งชาติ ศิลปินอาวุโส เป็นพี่เลี้ยงช่วยให้นิสิตนักศึกษาเหล่านี้สามารถพัฒนาแนวคิดและแนวทางการสร้างสรรค์งานได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยปีนี้มีการจัดประมูลผลงานศิลปกรรม เพื่อนำเงินมาเป็นงบประมาณในการซ่อมฝายเก็บกักน้ำหมู่บ้านแหลมนาว จังหวัดระนอง และสมทบเพื่อจัดสรรเป็นทุนการศึกษาให้นักศึกษาด้านศิลปะทั่วประเทศต่อไป
ศาสตรเมธีนนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน กรรมการและเลขานุการ กองทุนฯ กล่าวว่า จัดกิจกรรม Art Camp ในปีนี้ คณะกรรมการได้เล็งเห็นว่าระนองเป็นจังหวัดที่มีความงามทางทะเล มีอุทยานแห่งชาติแหลมสน มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ คือ “พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำ ลอง) ซึ่งเป็นตำหนักที่ประทับของ 3 รัชกาล และความงามของทิวทัศน์ทางธรรมชาติเหล่านี้ เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของนักศึกษาที่เคยได้รับทุน ตลอดจนศิลปินผู้เข้าร่วมโครงการ ผลของการสร้างสรรค์ได้ผลงานที่มีคุณภาพเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งได้นำมา5ศิลปวัฒนธรรมจัดแสดงไว้ในนิทรรศการครั้งนี้ให้ผู้สนใจได้ชื่นชมความสวยงามของจังหวัดระนอง
“ในทุกปีที่ผ่านมา เมื่อสร้างสรรค์ผลงานในพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำกลับมาเพื่อจัดแสดงนิทรรศการ แต่สำหรับปีนี้ จากการได้รับความร่วมมือและการประสานงานเป็นอย่างดีจากท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ท่านพินิจ บุญเลิศ จึงได้มีการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมจากเดิมคือ การจัดประกวดวาดภาพของนักเรียนในท้องถิ่นของจังหวัดระนองในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อเป็นการส่งเสริมบรรยากาศทางศิลปะและประสบการณ์ทางศิลปะในหมู่เยาวชน และการจัดงานประมูลผลงานศิลปกรรมที่สร้างสรรค์โดยศิลปินแห่งชาติ ศิลปินอาวุโส และคณาจารย์ ซึ่งสร้างสรรค์ผลงาน ทั้งยังมอบให้ทางกองทุนฯ จำนวน 11 ผลงาน เพื่อนำมาประมูล
หารายได้เป็นเงินทุนในการซ่อมฝายเก็บกักน้ำและสร้างระบบประปาบ้านแหลมนาว และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้มีจิตเป็นกุศลในจังหวัดระนอง” ตัวแทนคณะกรรมการกองทุนฯ กล่าว
นอกจากนี้ ทางกองทุนฯ ได้มอบผลงานศิลปกรรมทิวทัศน์ต่างๆ ของเมืองระนอง จำนวน 10 ผลงาน ให้กับทางจังหวัดระนอง เพื่อนำไปติดตั้งที่ศาลากลางให้ประชาชนได้ชื่นชมความงามต่อไปด้วย
1 ใน 300 ภาพที่มาจัดแสดงครั้งนี้เป็นของ อาจารย์นรากร สิทธิเทศ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และเป็นนักศึกษารุ่นแรกที่เคยได้รับทุนจากมูลนิธิรัฐบุรุษฯ ได้เผยว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเยือนระนอง หลายคนรู้เพียงว่าระนอง เป็นทางผ่านไปจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ แต่เมื่อไปสัมผัสจึงรู้ว่าระนองเป็นจังหวัดที่เงียบสงบ สวยงาม และน่าอยู่ มีคาแรคเตอร์ที่พิเศษออกไป โดยเฉพาะสถานที่ที่ผมเลือกไปเขียนงาน เรียกว่า “หาดแหลมสน” มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และมองเห็นวิถีชีวิตของชาวประมงทางภาคใต้ ความเป็นพื้นบ้าน ผลงานที่เขียนขึ้นเป็นภาพแลนด์สเคป สะท้อนอารมณ์ความสงบ เรียบง่ายของชาวระนอง
“สำหรับการคัดเลือกนักศึกษาเพื่อเข้ารับทุนนั้น ในแต่ละมหาวิทยาลัยจะจัดเหมือนการประกวดเล็กๆ ในคณะที่สอนด้านศิลปะ กำหนดให้นักศึกษาชั้นปีสุดท้ายส่งผลงานของตนเอง เพื่อให้อาจารย์คัดเลือกหาเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้รับเงินการศึกษาจำนวน 30,000 บาท จากกองทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ “มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” ซึ่งมีนักศึกษาเสนอผลงานเข้าชิงทุนจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี” อาจารย์เผยในฐานะผู้คัดเลือกนักศึกษาเข้ารับทุน
ด้านกฤตัชญ์ อ่อนธนู นักศึกษาผู้เคยได้รับทุนเมื่อปี 2555 หนึ่งในศิลปินที่เข้าร่วมโครงการ Art Camp ในปีนี้ โดยสร้างสรรค์ผลงานถึง 3 ชิ้น มีทั้งประติมากรรม จิตรกรรม และศิลปกรรมสื่อผสม โดยแต่ละผลงานมีสไตล์ที่แตกต่างและแนวคิดที่หลากหลาย อาทิ ผลงาน “กุมารทองโอบามา” ประติมากรรมความเชื่อของคนไทยและอิทธิพลทางตะวันตก นำมาผสานผสมกันเกิดเป็นผลงานที่ดูแปลกตา ถัดมาเป็นภาพบรรยากาศของทิวทัศน์หมู่บ้านแหลมนาว วาดลงบนแผ่นไม้ ที่พบเจอบริเวณหาด สะท้อนความกลมกลืนของศิลปะและธรรมชาติ ศิลปินยังเผยด้วยว่า หลังจากจบการศึกษาสาขาประติมากรรม คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีธัญบุรี ก็ยังคงเดินหน้าทำงานเกี่ยวกับศิลปะอย่างต่อเนื่อง โดยนำความรู้ที่ได้มาพัฒนางาน เช่นเดียวกับการเข้าร่วม Art Camp ปีนี้ มีโอกาสได้
พบปะพูดคุยกับศิลปินรุ่นใหญ่และรุ่นพี่ที่เคยได้รับทุน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจและเทคนิคการสร้างงานมากขึ้น เพื่อจะได้นำไปประกอบใช้ในการทำงานต่อไป สำหรับท่านที่สนใจและชื่นชอบผลงานศิลปะสามารถเข้าชมและสั่งซื้อผลงานเพื่อนำรายได้สมทบทุนกองทุนฯ ได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2241-0088 และ www.bangkokartnews.com